ไชน่าเดลี่ - กระทรวงสาธารณสุขและคณะกรรมการการปลูกถ่ายอวัยวะแห่งชาติจีนเร่งตรวจสอบสถาบันการแพทย์ 164 แห่งที่มีคุณสัมบัติปลูกถ่ายอวัยวะ หลังมีรายงานเปิดเผยว่าบางโรงพยาบาลละเมิดกฏถ่ายอวัยวะให้กับชาวต่างชาติ เนื่องจากได้ค่าตอบแทนที่สูงกว่า ขณะที่ผู้ป่วยชาวจีนที่มีความจำเป็นเข้าไม่ถึงการรักษา
ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขจีนกล่าวว่า ปัจจุบันขึ้นบัญชีดำโรงพยาบาล 16 แห่ง ที่เข้าข่ายละเมิดกฏการปลูกถ่ายอวัยวะ และเตรียมจะเปิดเผยรายชื่อต่อประชาชนและถอนใบอนุญาตสถาบันการแพทย์ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ
เนื่องจากประเทศจีนมีกฏระเบียบห้ามซื้อขายอวัยวะ และห้ามโรงพยาบาลผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะให้แก่ผู้ป่วยต่างชาติ หรือที่เรียกว่า “นักท่องเที่ยวเพื่อปลูกถ่ายอวัยวะ” ที่ประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2550 แต่ยังคงมีโรงพยาบาลบางแห่งขายอวัยวะอย่างผิดกฏหมายแก่ชาวต่างชาติ เพราะผลตอบแทนสูงและเพิ่มกำไรให้กับโรงพยาบาล
ขณะที่ข้อมูลจากกรมสถิติจีนระบุว่า ในแต่ละปีมีชาวจีนกว่า 2 ล้านคน จำเป็นต้องเข้ารับการปลูกถ่ายอวัยวะ แต่มีเพียง 20,000 รายเท่านั้นที่เข้าถึงการรักษานี้ เนื่องจากขาดแคลนอวัยวะบริจาค โดยในปี 2551 มีโรงพยาบาลจีน 3 แห่งที่ถูกทางการจีนลงโทษ หลังตรวจสอบพบว่าลักลอบขายอวัยวะให้กับชาวต่างชาติ
ที่ผ่านมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินตรวจสอบทันทีหลังจากหนังสือพิมพ์เกียวโด นิวส์ของญี่ปุ่น รายงานว่า มีพลเมืองญี่ปุ่นจำนวน 17 คน เข้ารับการรักษาผ่าตัดไตและตับ โดยมีค่าใช้จ่ายที่คนละ 595,000 หยวน หรือ 87,000 เหรียญสหรัฐ ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งของเมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้งทางภาคใต้ของจีน ซึ่งราคาปกติอยู่ที่ 100,000 หยวน
ต่อเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ สภากาชาดแห่งชาติจีนร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขแถลงว่า จะจัดตั้งหน่วยรับบริจาคอวัยวะ เพื่อดำเนินการระบุแหล่งที่มาของอวัยวะ ซึ่งจะเปิดรับทั้งอวัยวะจากผู้เสียชีวิตและผู้บริจาคที่ยังมีชีวิตอยู่