สภาผู้แทนฯยุ่นโหวตล้มเลิกห้ามบริจาคอวัยวะเด็ก

เอเอฟพี - สภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่น ออกเสียงวันนี้ (17) ยกเลิกการห้ามบริจาคอวัยวะของเด็ก เปิดทางให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี สามารถได้รับการช่วยชีวิตได้จากการปลูกถ่ายอวัยวะเป็ฯครั้งแรกภายในประเทศ

ร่างพระราชบัญญัตติใหม่ดังกล่าวได้รับความเห็นชอบด้วยเสียงสนับสนุน 263 ต่อ 167 เสียง และจะส่งต่อไปยังวุฒิสภาที่ผ่ายค้านกุมเสียงส่วนใหญ่ ซึ่งหากวุฒิสภาไม่เห็นชอบ สภาผู้แทนราษฎร 2 ใน 3 ก็สามารถผลักดันให้ร่างกฎหมายนี้ออกเป็นกฎหมายได้เช่นกัน

กฎหมายปัจจุบันของญี่ปุ่นห้ามการปลูกถ่ายอวัยวะในเด็ก ซึ่งกลุ่มนักเคลื่อนไหว ระบุว่า ข้อห้ามดังกล่าวทำให้เด็กหลายพันคนต้องเสียชีวิต และทำให้หลายครอบครัวจำนวนมากต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการส่งเด็กที่จำต้องได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะไปรับการผ่าตัดในต่างประเทศ

ภายใต้กฎหมายญี่ปุ่น การปลูกถ่ายอวัยวะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แม้สำหรับผู้ใหญ่ เนื่องจากมีระเบียบเข้มงวดที่กำหนดให้ผู้บริจาคอวัยวะต้องเขียนเอกสารยินยอมล่วงหน้าไว้ให้นำอวัยวะไปใช้ในการปลูกถ่ายได้เมื่อสมองตาย ขณะเดียวกัน จะต้องได้รับความเห็นชอบจากครอบครัวด้วย แต่สำหรับร่างกฎหมายใหม่จะยกเลิกข้อจำกัดด้านอายุ และข้อกำหนดที่ต้องได้รับยินยอมล่วงหน้า เว้นแต่ผู้นั้นจะระบุชัดเจนว่าไม่ต้องการให้นำอวัยวะไปใช้ อย่างไรก็ตาม ยังคงกำหนดให้ครอบครัวของเด็กต้องยินยอมด้วย

นอกจากนี้ ร่างกฎหมายให้ยังยอมรับรองว่า ผู้ป่วยที่สมองตายแล้วเป็นการตายตามกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียกันมากในญี่ปุ่น โดยกลุ่มศาสนาระบุว่า คนจะตายก็ต่อเมื่อหัวใจหยุดเต้นและตับไม่ทำงานแล้วเท่านั้น

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นรับรองกฎหมายปลูกถ่ายอวัยวะในปี 1971 แต่นับแต่นั้นมีการปลูกถ่ายอวัยวะเพียง 81 รายเท่านั้น ขณะที่ในสหรัฐฯมีเป็นพันรายในแต่ละปี ยุโรปก็มีจำนวนหลายร้อยแต่ละปีด้วย

แผนการปฏิรูปเรื่องการบริจาคอวัยวะที่ถูกเถียงมาอย่างยาวนาน ขณะที่องคก์การอนามัยโลกส่งสัญญาณว่า ในปีหน้าจะขอให้ประเทศมาชิกจำกัดการปลูกถ่ายอวัยวะภายในประเทศของต้นเท่านั้น เพื่อเป็นการต่อต้านการท่องเที่ยวเพื่อปลูกถ่ายอวัยวะ ที่อาจเกิดปัญหาการทารุณกรรม โดย ออสเตรเลีย อังกฤษ และเยอรมนี ประกาศว่าจะไม่รับการปลูกถ่ายอวัยวะให้แก่คนไข้จากญี่ปุ่น