xs
xsm
sm
md
lg

ศึกรุนแรงที่บ.เหล็กทงฮว่า ฉายปัญหาเก่าที่คุกคามจีนไม่เลิก

เผยแพร่:   โดย: สุรัตน์ ปรีชาธรรม

อุตสาหกรรมเหล็กจีนซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเริ่มฟื้นตัว หลังจากที่ตกอับสุดๆในช่วงไตรมาสสองปีที่แล้วซึ่งทำให้โรงงานขนาดเล็กปิดกิจการกันระนาว ขณะนี้รัฐบาลพยายามผลักดันการปรับโครงสร้างและควบรวมกลุ่มบริษัทในอุตสาหกรรมผลิตเหล็ก ที่ไร้ประสิทธิภาพและเน่าแฟะเนื่องจากคอรัปชั่น-เอเอฟพี
แม้อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ ส่อเค้าโตถึงร้อยละ 8 แต่ปัญหาอัตราว่างงานซึ่งเป็นปัญหาเก่าแก่ที่ผู้จีนกลัวมากสุดเนื่องจากอาจก่อความวุ่นวายในสังคม ก็ยังดูเหมือนเป็นคลื่นใต้น้ำที่รอวันระเบิดใหญ่

กรณีการประท้วงของกลุ่มคนงานบริษัทเหล็กทงฮว่าที่กลายเป็นจลาจลถึงขั้นซ้อมเจ้านายคนใหม่ถึงตาย และมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่จนบาดเจ็บกว่า 100 คน เป็นตัวอย่างที่สะท้อนถึงปัญหาว่างงานที่ผู้นำจีนยังแก้ไม่ตกเสียที นับตั้งแต่ช่วงแปรรูปวิสาหกิจระหว่างการปฏิรูปเศรษฐกิจเมื่อหลายปีที่ผ่านมา

กรณีความรุนแรงที่บริษัทเหล็กทงฮว่า ยังสะท้อนชัดถึงขวากหนามในการควบรวมกิจการบริษัทที่มีอยู่ยั้วเยี้ยในภาคอุตสาหกรรมต่างๆของจีน โดยในวันจันทร์(27 ก.ค.) รัฐบาลได้ประกาศพับแผนการควบรวมบริษัทเหล็กที่เป็นเหตุของการประท้วงนี้

เหตุประท้วงรุนแรงที่บริษัทเหล็กและเหล็กกล้าทงฮว่า (Tonghua Iron and Steel Group) ในมณฑลจี๋หลิน ระเบิดขึ้นเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา(24 ก.ค.) สื่อรัฐบาลจีนไชน่า เดลี่รายงานกรณีดังกล่าวโดยระบุกลุ่มคนงานหลายพันคน ขณะที่ศูนย์ข้อมูลสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกงระบุตัวเลขกลุ่มประท้วงถึง 30,000 คน กลุ่มคนงานได้ประท้วงการควบรวมกิจการ ซึ่งบริษัทเจี้ยนหลง กลุ่มบริษัทเหล็กทุนเอกชนในกรุงปักกิ่ง จะเข้าครอบกิจการของทงฮว่า ซึ่งเป็นวิสาหกิจของรัฐ โดยเจี้ยนหลงจะเข้าซื้อหุ้นใหญ่ร้อยละ 65 ของทงฮว่า

กลุ่มคนงานกลัวว่าบริษัทใหม่ที่เข้ามาคุมกิจการมีแผนปลดคนงานนับพัน และระหว่างการประท้วง นายเฉิน กั๋วจวิน ผู้จัดการคนใหม่จากบริษัทเจี้ยนหลงยังขู่ซ้ำยั่วยุคนงานอีกว่า พวกคนงานที่มาประท้วงนับพันคนนั้น จะถูกปลดออกจากงานภายใน 3 วัน

ไชน่าเดลี่ยังรายงานคำพูดของเฉินกลางกลุ่มประท้วงที่ร้อนระอุด้วยไฟโกรธแค้นอีกว่า “คนงาน 30,000 คน จะค่อยๆถูกตัดลดลงเหลือ เพียง 5,000 คน”

ศึกรุนแรงในโรงงานเหล็กครั้งนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงที่อุตสาหกรรมเหล็กของจีนกำลังฟื้นตัว สืบเนื่องจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 586,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯของรัฐบาลจีนที่ช่วยอุดหนุนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จนความต้องการเหล็กบูมขึ้นอีกครั้ง การผลิตเหล็กดิบเมื่อเดือนมิถุนายน ทะยานขึ้นเกือบ 50 ล้านตัน สูงขึ้นร้อยละ 6 จากปีก่อนหน้า นับเป็นระดับสูงครั้งประวัติการณ์ ทั้งนี้จากตัวเลขของสมาคมเหล็กโลก

“ความต้องการเหล็กบูมขึ้นในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้เนื่องจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร” นายจิม เลนอน นักวิเคราะห์ประจำ Macqurie Bank ชี้

แต่ความต้องการที่บูมระเบิดเช่นนี้ก็เป็นเพียงกระแสหวือหวา ที่ช่วยบรรเทาปัญหาของผู้กำหนดนโยบายเพียงชั่วคราว ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีโรงงานหลอมเหล็กรายใหม่ผุดขึ้นเป็นเห็ดหน้าฝน และในปี 2545 จีนก็ขึ้นแท่นผู้ผลิตสินค้าวัตถุดิบรายใหญ่สุดของโลก ขณะนี้ผู้นำจีนบอกว่าความสามารถผลิตเหล็กของจีนมีล้นเกินกว่าที่ทั้งตลาดภายในและตลาดต่างแดนจะรองรับได้หมด

ในเดือนกุมภาพันธ์ หลัว ปิงเซิ่ง เลขาธิการสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าของจีน เผยว่าความสามารถผลิตเหล็กของจีนในปี 2551 นั้น มีล้นเกินขีดความต้องการภายในประเทศที่มีอยู่ 500 ล้านตัน อยู่ถึง 160 ล้านตัน รัฐบาลจีนกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาโดยเรียกร้องการผนึกรวมอุตสาหกรรมภายในประเทศให้เหลือผู้ผลิตหลักเพียง 5 กลุ่ม เพื่อที่จะสามารถจัดการผลผลิตได้ดีกว่า โดยผู้ผลิตเหล็กรายหลัก 5 รายนี้ จะป้อนเหล็กร้อยละ 45 แก่ตลาดภายในปี 2554

ไม่เพียงแผนควบรวมในภาคอุตสาหกรรมเหล็ก จีนยังหวังลดจำนวนผู้ผลิตรายหลักในภาครถยนต์ จาก 14 ราย เหลือ 10 ราย และผนึกรวมผู้ผลิตซีเมนต์ที่มีอยู่ 5,000 ราย การปรับโครงการนี้จะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมจีนแข็งแรงและมั่นคงขึ้น แต่กระบวนการที่จะไปถึงเป้าหมายนี้ ก็ต้องลุยฝ่าขวากหนามและความเจ็บปวด

“คนงานมักตกเป็นเหยื่อ มีเสียงเพียงเบาๆแผ่วๆ และมีโอกาสน้อยในการต่อรองใดๆ” Geoffrey Crothall โฆษกสาสน์แรงงานจีน (China Labour Bulletin) กลุ่มNGO ด้านสิทธิแรงงานในฮ่องกง ชี้

“การปรับลดขนาดและการผนึกรวมบริษัท โดยตัวมันเองแล้วไม่มีปัญหา อยู่ที่ขั้นตอนการจัดการ” Crothall

ทั้งนี้การแปรรูปรัฐวิสาหกิจและการควบรวมบริษัทในจีน มักทำกันภายในห้องประชุมที่ปิดลับของผู้บริหาร โดยที่คนงานไม่เคยมีสิทธิเข้าร่วมหรือเกี่ยวข้องด้วย จนสั่งสมความโกรธในใจคนงาน ความคับแค้นใจเหล่านี้ก่อตัวขึ้นไม่เพียงเพราะคนงานไม่ได้รับรู้ข้อมูลที่จะส่งผลต่อชะตากรรมพวกเขา กระบวนการปรับโครงสร้างยังมักแปดเปื้อนด้วยคอรัปชั่น ขณะที่คนงานก็ไม่รู้ถึงคุณค่าที่แท้จริงของการแปรรูปฯ .
กำลังโหลดความคิดเห็น