‘โอบามา’ชี้ความร่วมมือจีน-เมกาช่วยกู้ศก.โลกได้

เอเอฟพี – ผู้นำจีน-สหรัฐฯ เชื่อผลสำเร็จของการเจรจาระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ รมว.คลังสหรัฐฯ เรียกร้องจีนให้หันมากระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ แทนเศรษฐกิจแบบใช้การส่งออกนำ เพื่อให้เศรษฐกิจโลกมีความยั่งยืน

ในต้นสัปดาห์นี้ (27-28 ก.ค.) การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และจีนจะเริ่มขึ้นที่กรุงวอชิงตัน โดยประเด็นที่บรรดาตัวแทนจาก 2 ประเทศจะหยิบยกขึ้นมาหารือ คาดว่าจะมีทั้งเรื่องเศรษฐกิจและภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นปัญหาที่โลกกำลังเผชิญอยู่

โดยการเจรจาครั้งนี้ ถือเป็นการเจรจาในเชิงลึกระหว่างจีนและสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก หลังจากที่ นายบารัค โอบามา ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

สำหรับตัวแทนจากสหรัฐฯ ที่จะเข้าร่วมการเจรจา นำโดย นางฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศ, นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลัง และนายท็อดด์ สเติร์น ผู้แทนการเจรจาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ส่วนผู้แทนฝ่ายจีน นำโดย นายไต้ ปิงกั๋ว มุขมนตรี และนายหวัง ฉีซัน รองนายกรัฐมนตรีของจีน

ก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีหู จิ่น ของจีน ได้ส่งสาส์นมายังที่ประชุม โดยผู้นำทั้ง 2 ต่างตั้งความหวังว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 มหาอำนาจในโลกจะเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์และมีความเข้าใจอันดีต่อกัน

โดยประธานาธิบดีโอบามา ระบุว่าไว้ในสาส์นของเขาว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะมีอิทธิพลต่อโลกในศตวรรษที่ 21 และมีความสำคัญยิ่งกว่าความสัมพันธ์ทวิภาคีใดๆ ในโลก ดังนั้น สหรัฐฯและจีนจึงมีความรับผิดชอบร่วมกันที่จะยึดมั่นในความร่วมมือระหว่างกัน”

ขณะที่สาส์นจากประธานาธิบดีหู ระบุว่า “ทั้งจีนและสหรัฐฯ ถือเป็นชาติที่ทรงอิทธิพลในโลก ดังนั้น จึงเป็นความรับผิดชอบของ 2 ชาติในการสร้างสันติภาพและการพัฒนาให้แก่เพื่อนมนุษย์” ในสาส์นยังระบุอีกว่า “ประเทศของเราทั้งสอง ควรพยายามที่จะขยายความเข้าใจร่วมกัน ลดความแตกต่างระหว่างกัน เพิ่มความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น”

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ที่เข้าร่วมประชุม เผยว่า จีนได้แสดงความกังวลต่อที่ประชุมถึงอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพราะนั่นหมายถึงความปลอดภัยของเงินจำนวน 7.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่จีนนำมาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ

ขณะที่ นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ กล่าวก่อนเข้าร่วมกาเจรจาของ 2 ชาติมหาอำนาจ ว่าจีนควรยกเลิกเศรษฐกิจแบบใช้การส่งออกนำ และหันมาใช้กำลังซื้อภายในประเทศนำเศรษฐกิจ เพราะนั่นจะทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และยังทำให้เศรษฐกิจโลกเติบโตอย่างยั่งยืน

นายไกธ์เนอร์ ยังได้เรียกร้องให้ชาติมหาอำนาจทั้ง 2 ช่วยกันค้ำจุนเศรษฐกิจของประเทศตน จนกว่าเศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัว

“ประเทศของเราทั้ง 2 ได้ตกลงกันอย่างชัดเจน ว่าจะออกนโยบายทางเศรษฐกิจที่จำเป็น จนกว่าเศรษฐกิจโลกจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ” นายไกธ์เนอร์ ระบุ

ด้าน นายหวัง ฉีซัน กล่าวว่า การเจรจาในครั้งนี้มีขึ้นในเวลาที่เหมาะสม เพราะเศรษฐกิจโลกกำลังจะฟื้นตัว และว่า ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโลกทั้งหมดด้วย