xs
xsm
sm
md
lg

ธ.โลกชี้จีนหาทางสำรองเงินในสกุลอื่น เหตุไม่อยากผูกหยวนไว้กับดอลล่าร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเยนซี – ประธานเวิร์ลแบงก์ชี้จีนกำลังหาทางทำให้การถือครองเงินตราต่างประเทศมีความหลากหลาย เพื่อเลี่ยงการพึ่งพิงดอลล่าร์เพียงสกุลเดียว ด้านส.ส.ฝ่ายค้านแฉ จีนต้องการกระจายความเสี่ยงเพราะไม่มั่นใจในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

นายโรเบิร์ต โซเอลลิก ประธานธนาคารโลก หรือ เวิร์ลแบงก์ กล่าวในการประชุมที่เมืองมอนทรีอัลว่า “ผมเห็นมาหลายครั้งแล้วว่าจีนต้องการกระจายสกุลเงินสำรอง เพราะไม่อยากผูกอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนไว้กับดอลล่าร์เพียงสกุลเดียว”

ก่อนหน้านี้ นายโจว เสี่ยวชวน ผู้ว่าการแบงก์ชาติของจีน ก็เคยออกมาเรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ นำเงินสกุล SDR (special drawing rights) ของไอเอ็มเอฟ มาใช้ในการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งนายจอห์น ลิปสกี้ รองกรรมการอำนวยการอันดับที่หนึ่งของไอเอ็มเอฟ ก็เคยออกมาสนับสนุนแนวคิดนี้ โดยบอกว่าน่าจะมีความเป็นไปได้ในระยะยาว แต่นายโซเอลลิก กลับเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่อาจทำได้เพียงชั่วข้ามคืน เนื่องจากเงินดอลล่าร์ยังมีสภาพคล่องและน่าเชื่อถือ

เวิร์ลแบงก์เคยประมาณว่ ในปีนี้เศรษฐกิจีนจะเติบโตเพียง 6.5 เปอร์เซ็นต์ ลดลงจากปีที่แล้วที่เติบโตถึง 9 เปอร์เซ็นต์ แต่ในวันนี้ (9 มิ.ย.) ประธานเวิร์ลแบงก์กลับให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจของจีนจะเติบโตขึ้นอย่างน่าแปลกใจเนื่องจากวิกฤตการเงินโลกเริ่มจะฟื้นตัว

แต่เมื่อมองเศรษฐกิจโลกโดยทั่วไป นายโซเอลลิกเห็นว่ายังอยู่ในอาการน่าเป็นห่วง เพราะถึงแม้ว่าตลาดสินเชื่อจะปรับตัวดีขึ้น และรัฐบาลหลายประเทศมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็เหมือนการฉีดน้ำตาลเข้าไปในกระแสเลือด ที่ระดับน้ำตาลจะพุ่งขึ้นสูงเพียงชั่วครู่ก่อนที่จะจางหายไป

เรื่องนี้ นายมาร์ค เคิร์ก ส.ส.พรรครีพลับลิกันของสหรัฐฯ ที่เพิ่งกลับจากการไปเยือนจีน และมีโอกาสได้เข้าพบเจ้าหน้าที่รัฐบาล รวมถึงผู้ว่าแบงก์ชาติของจีน กล่าวว่า “จากการพูดคุยเป็นการส่วนตัว จีนกังวลกับเรื่องนี้มาก และแน่นอนว่าจีนต้องการกระจายการลงทุนไปในเงินสกุลอื่นที่นอกเหนือจากดอลล่าร์” และยังว่า ผู้นำจีนได้วิจารณ์นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างรุนแรง โดยเฉพาะการอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลเข้าไปในระบบการเงินของสหรัฐฯ

จีนถือเป็นประเทศที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มากที่สุดในโลก คิดเป็นมูลค่า 7 แสนล้านเหรียญ ขณะที่สหรัฐฯ ได้เผชิญกับปัญหาขาดแคลนเงินงบประมาณมาตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช จนทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลได้คาดการณ์ว่า ในปีนี้งบประมาณของสหรัฐฯ จะขาดดุลถึง 1.841 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งนายเคิร์กได้บอกกับทางการจีนว่า ตัวเลขงบขาดดุลจริงๆ อาจสูงกว่าที่ทางการสหรัฐฯ คาดการณ์ไว้

นายมาร์ค เคิร์ก ได้เป็นประธานร่วมในคณะทำงานจีน-สหรัฐฯ ในสภาคองเกรส ร่วมกับนายริค ลาร์เช๋น ส.ส.จากพรรคเดโมแครต โดยทั้งสองได้เดินทางไปเยือนจีนในฐานะประธานคณะทำงานชุดดังกล่าว

โดยนายลาร์เซ่นกล่าวภายหลังเดินทางกลับจากจีนว่า ผู้นำจีนต่างต้องการเห็นความสำเร็จของสหรัฐฯ และไม่ต้องการโค่นสหรัฐฯ ลงจากบัลลังค์มหาอำนาจ โดยบอกว่า “เขาไม่คิดว่าพวกเขาจะสามารถเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของโลกได้ และพวกเขาก็กำลังรอคอยให้สหรัฐฯ กลับมานำพาให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว”

การเดินทางไปเยือนจีนของคณะทำงานชุดที่มี นายมาร์ค เคิร์ก และนายริค ลาร์เชน เป็นประธานร่วมนั้น จัดอยู่ในซีรีส์เดียวกับกรณีที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เดินทางไปเยือนจีน
กำลังโหลดความคิดเห็น