เอเจนซี – ธนาคารจีนปล่อยกู้กระจาย ตัวเลขหนี้ใหม่เดือนมิถุนายนพุ่งแรงเหนือความคาดหมาย โตกว่าเดือนพฤษภาคมเท่าตัว นักเศรษฐศาสตร์เตือนอาจเกิดวิกฤตหนี้เน่าและการผลิตล้นเกินตามมา
ธนาคารกลางเปิดเผยผ่านเว็บไซต์เมื่อวันพุธ (8 ก.ค.) ว่า จากการคำนวณเบื้องต้น ตัวเลขการปล่อยสินเชื่อก้อนใหม่ของธนาคารในเดือนมิถุนายนพุ่งแตะ 1.53 ล้านล้านหยวน เพิ่มจากเดือนพฤษภาคมเท่าตัว ส่งผลให้ยอดรวม 6 เดือนแรกแตะ 7.4 ล้านล้านหยวน พุ่งทะลุเป้าสินเชื่อปี 2552 ที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ที่ 5 ล้านล้านหยวนแล้ว
ตัวเลขสินเชื่อเดือนมิถุนายนนับว่าเป็นตัวเลขเงินกู้ที่สูงเป็นอันดับ 3 ของปีนี้ รองจากเดือนมีนาคมและมกราคมที่ยอดแตะ 1.89 ล้านล้านหยวน และ 1.62 ล้านล้านหยวนตามลำดับ
ปรากฏการณ์ธนาคารปล่อยสินเชื่อพุ่งกระฉูดนี้ หลิว อี้ว์ฮุ่ย ผู้อำนวยการศูนย์ประเมินเศรษฐกิจจีนจากบัณฑิตยสภาด้านสังคมศาสตร์ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นผลจากการตัดสินใจของรัฐบาลในการบรรเทากฎระเบียบเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยลดตัวเลขเงินทุนสำหรับโครงการก่อสร้างถนน ทางรถไฟ และรถไฟฟ้าใต้ดินจาก 35% ของมูลค่าโครงการเหลือ 25% และสำหรับโครงการสร้างสนามบินและท่าเรือลดจาก 35% เหลือ 30%
“การลดข้อเรียกร้องในการลงทุนโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ก็หมายความว่า รัฐบาลท้องถิ่นสามารถกู้เงินจากธนาคารเพื่ออัดฉีดโครงการก่อสร้างภายในพื้นที่ได้ง่ายขึ้น” หลิวกล่าว
นอกจากนี้ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่กระตุ้นให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยพุ่งสูงขึ้น
ซึ่งเกลนน์ บี แม็คไกวร์ นักเศรษฐศาสตร์จากโซซิเอท เจอเนอรัล คอร์ปอเรชั่น แอนด์ อินเวสต์เม้นท์มองว่า ตัวเลขการเติบโตครั้งใหม่นี้ทำให้รัฐบาลกลางไม่สบายใจและหวั่นเกรงว่าการปล่อยสินเชื่อของธนาคารจะสร้างฟองสบู่ครั้งใหม่ให้แก่ตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้นของจีน อีกทั้งยังจะก่อหนี้เสียก้อนใหม่ให้แก่ระบบธนาคารจีนด้วย โดยแม็คไกวร์แนะนำให้รัฐบาลพุ่งเป้าไปที่คุณภาพมากกว่าปริมาณของการปล่อยสินเชื่อ