เอเอฟพี - คณะกรรมการกำกับกิจการธนาคารจีนรายงานในเว็บไซต์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (25 มี.ค.) ว่า ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารจีนลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เศรษฐกิจชะลอตัว
รายงานเปิดเผยว่า เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปริมาณหนี้สินโดยรวมอยู่ที่ 1.53 ล้านล้านหยวน (224,500 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งน้อยกว่าเมื่อต้นปีราว 17,500 ล้านหยวน โดยสัดส่วนหนี้เน่าในภาคธนาคารลดลงร้อยละ 4.5 ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ลดลงจากร้อยละ 4.9 เมื่อช่วงต้นปี
ขณะที่หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารพาณิชย์มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 553,500 ล้านหยวนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้อัตราส่วนหนี้เสียลดลงจากร้อยละ 2.44 เมื่อต้นปีเหลือร้อยละ 2.2
อย่างไรก็ตาม ทางผู้คุมกฎไม่ได้เปิดเผยตัวเลขหนี้เสียของสถาบันผู้ให้กู้รายอื่นๆ อาทิ ธนาคารนโยบาย และสหกรณ์ท้องถิ่น
ทั้งนี้ ตัวเลขข้างต้นรายงานท่ามกลางความหวาดหวั่นว่า ธนาคารจีนจะเผชิญความเสี่ยงหนีเสียเพิ่ม เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อมากมายในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว เพื่อช่วยอัดฉีดเงินทุนตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 ล้านล้านหยวนของจีน
ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่า ผลร้ายของการปล่อยกู้มหาศาลในปัจจุบันจะปรากฏหลังจากนี้ 1-2 ปี แต่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2552 นั้นตัวเลขหนี้เสียน่าจะยังอยู่ในระดับต่ำ เพราะมันสะท้อนถึงหนี้ก้อนเก่า
อนึ่ง เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ธนาคารจีนได้ขยายการปล่อยสินเชื่อก้อนใหม่เพิ่มขึ้นทำลายสถิติที่ 1.6 ล้านล้านหยวน เนื่องจากรัฐบาลปักกิ่งกระตุ้นให้พวกเขาปล่อยกู้เพิ่มเพื่อชุบชีวิตเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม หนี้ก้อนใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 1.1 ล้านล้านหยวน ลดลงนิดหน่อย แต่ก็จัดว่ายังมากอยู่