เอเอฟพี/รอยเตอร์- จีนเปิดสาเหตุผู้บริหารริโอ ทินโต ถูกจับกุมตัว ระบุต้องสงสัยขโมยข้อมูลลับทางราชการ ด้านรมว.ต่างประเทศออสซี่ ชี้ไม่มีหลักฐานว่ามีเรื่องธุรกิจอยู่เบื้องหลัง
นายสตีเฟน สมิธ รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยเมื่อวันพุธ (8 ก.ค.) ว่า นายสเติร์น หู ที่ถือพาสปอร์ตออสเตรเลีย พร้อมผู้บริหารอีก 3 รายของริโอ ทินโต บริษัทเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่ของออสเตรเลีย ถูกจับกุมในนครเซี่ยงไฮ้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (5 ก.ค.) เพราะต้องสงสัยว่าทำหน้าที่สืบราชการลับ
“ช่วงบ่ายวันนี้ (8ก.ค.) เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียเพิ่งได้รับแจ้งจากทางการจีน ถึงสาเหตุการจับกุมนายหู ว่าเขามีส่วนในการจารกรรมข้อมูลและขโมยความลับทางราชการ” นายสมิธกล่าวกับผู้สื่อข่าว
นายสมิธ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานระบุว่า การจับกุมนายหูครั้งนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องธุรกิจในบริษัทริโอฯ ที่สะบั้นสัมพันธ์กับจีนเมื่อการเจรจาในธุรกิจเหมืองแร่ล้มเหลว
“การจับกุมตัวนายหูครั้งนี้ ได้สร้างความประหลาดใจให้แก่ทางการออสเตรเลีย พอๆ กับที่สร้างความประหลาดใจให้แก่ริโอ ทินโต”
นายสมิธกล่าวเพิ่มเติมว่า ทางกงศุลของออสเตรเลียได้ติดต่อกับภรรยานายหู ซึ่งเป็นชาวออสเตรเลียนสัญชาติจีนและอาศัยอยู่ในชุมชนชาวจีน เรียบร้อยแล้ว
โดยผู้บริหารของริโอฯ อีก 3 รายที่ถูกจับกุมพร้อมกับนายหูล้วนมีสัญชาติจีน และผู้บริหารของริโอฯ ที่ถูกจับตัวไปทั้ง 4 รายนี้ ต่างก็อยู่ในฝ่ายขายสินแร่ และประจำการอยู่สำนักงานในนครเซี่ยงไฮ้
ขณะแหล่งข่าวชาวจีนที่อยู่ในอุตสาหกรรมเหล็กกล้ารายหนึ่ง เผยว่า ผู้บริหารริโอฯ ทั้ง 4 รายนี้ถูกจับกุมตัวในกรุงปักกิ่ง ไม่ใช่ที่นครเซี่ยงไฮ้อย่างที่ทางริโอ ทินโต แถลง
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทริโอ ทินโต ได้ประกาศล้มการเจรจาขายหุ้นเพิ่มให้แก่บริษัทไชนาลโค รัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ด้านเหมืองแร่ของจีน ที่มีมูลค่า 19,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
พร้อมเปิดเผยแผนการว่าจะทำการเพิ่มทุนจำนวน 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแบ่งเป็นการเพิ่มทุนในตลาดหลักทรัพย์ 15,200 ล้านเหรียญ และจะได้จากการร่วมทุนกับคู่แข่งรายสำคัญอย่าง BHP Billiton อีก 5,800 ล้านเหรียญ
คำประกาศดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้แก่ไชนาลโค โดยนายสง เว่ยผิง ประธานบริษัทไชนาลโค ได้เตือนว่า ไชนาลโคที่ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในริโอฯ จะจับตามองการระดมทุนครั้งใหม่ของริโอฯ อย่างใกล้ชิด
บรรดานักวิเคราะห์ต่างมองว่า สาเหตุที่ริโอ ทินโต เลิกล้มแผนการเป็นผลมาจากกระแสต่อต้านของชาวออสเตรเลีย ที่มีต่อการเข้าไปลงทุนในด้านทรัพยากรธรรมชาติของจีน เพราะเกรงว่านี่จะเป็นหนทางทำให้อิทธิพลของจีนแผ่ขยายไปทั่วภูมิภาค