เอเอฟพี – ประธานคนใหม่เครือบริษัทซิติก แปซิฟิก เผยผลประกอบการบริษัทในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ไปได้สวย หลังจากบริษัทขาดทุนมหาศาลจากการเก็งกำไรค่าเงินต่างประเทศเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว
หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานบริษัทซิติก แปซิฟิก นายฉาง เจิ้นหมิงก็ได้แถลงข่าวเปิดใจเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ที่ 25 พ.ค.โดยเขาบอกว่าผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ไม่สามารถลบล้างความสำเร็จของบริษัทที่ดำเนินมาถึง 20 ปีได้
นายฉางยังระบุอีกว่า บริษัทของเขายังมีเงินราว 15,000 ล้านหยวน ซึ่งเพียงพอต่อการลงทุนในธุรกิจสินแร่เหล็กและอุตสาหกรรมเหล็กกล้า และยังไม่มีแผนที่จะขายหุ้นในสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก หรือสินทรัพย์ที่ไม่ทำกำไรของบริษัทด้วย
ธุรกิจของบริษัทซิติกฯ มีตั้งแต่การทำเหมืองแร่ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2551 บริษัทมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 12,660 ล้านเหรียญฮ่องกง หลังจากมีกำไร 10,840 ล้านเหรียญฮ่องกงในปี 2550 โดยการขาดทุนเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วเป็นผลมาจากการเก็งกำไรค่าเงินดอลล่าร์ออสเตรเลีย เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการกรรมการบริหารของบริษัทซิติกฯ ทุกคน
นายฉางที่ขณะนั้นเป็นรองประธานบริษัทซิติก กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของซิติก แปซิฟิก วิจารณ์ว่า การขาดทุนของซิติกฯ ในครั้งนั้น เกิดจาก “การจัดการด้านการเงินภายในไม่ดีพอ” และผู้บริหารของบริษัทก็ “ไม่มีความเข้าใจในเรื่องความเสี่ยง” และยังว่า ทางบริษัทได้ตั้งคณะกรรมการหนี้สินขึ้นมาภายในเพื่อจัดการความเสี่ยงของบริษัท
นายชางได้เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานบริษัทซิติกฯ แทนที่ นายลาร์รี่ ยุง (Larry Yung) หรือชื่อจีนกลางคือ หรง จือเจี้ยน ที่ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากถูกตำรวจบุกเข้าตรวจค้นสำนักงานใหญ่ของซิติก แปซิฟิก เมื่อเดือนเมษายาที่ผ่านมา เนื่องจากซื้อขายเงินตราต่างประเทศประสบภาวะขาดทุน
หุ้นบริษัทซิติกฯ เคยแตะระดับ 50 เหรียญฮ่องกงเมื่อเดือนตุลาคมปี 2550 ก่อนที่จะตกลงมาอยู่ที่ 90 เซ็นต์ในปีต่อมา และปัจจุบัน ราคาหุ้นของซิติกฯ อยู่ที่ 15-16 เหรียญฮ่องกง
นายฉางกล่าวว่า เหมืองแร่เหล็กและอุตสาหกรรมเหล็กกล้ายังคงเป็นธุรกิจหลักของบริษัท และขณะนี้เขากำลังมองหาคนที่สามารถรวมบริษัทเป็นหนึ่งเดียว เข้ามาทำหน้าที่กรรมการอำนวยการของบริษัท