xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าหน้าที่รัฐหวังอาชีพก้าวหน้า ต้องลดปล่อยก๊าซคาร์บอน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไชน่าเดลี่ – พญามังกรหัวแหลมแก้ปัญหาโลกร้อน ประกาศใช้วิธีใหม่ วัดผลการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยนอกจากพิจารณาจากผลงานกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังดูจากผลงานลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกควบคู่ไปด้วย

เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ยืนยันว่า รัฐบาลจีนจะบรรจุการตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไว้ในแผนพัฒนาแห่งชาติ ซึ่งกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือจีนจะวัดความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ โดยดูจากระดับการลดปล่อยก๊าซคาร์บอน เมื่อเทียบต่อหน่วยการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จีนได้ประกาศมาตรการออกมาอย่างต่อเนื่องในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ

นายเหอ เจี้ยนควน รองประธานคณะผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของรัฐบาลจีนคาดว่า จีนอาจกำลังพิจารณาลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนต่อหน่วยจีดีพีอย่างเร็วสุดเมื่อเริ่มแผนพัฒนาแห่งชาติฉบับที่ 12 ซึ่งมีระยะเวลา 5 ปี (2554-2558) และภายใต้แผนพัฒนาดังกล่าว จะชี้ชะตาเส้นทางอาชีพของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยดูจากการดำเนินการลดก๊าซคาร์บอน

หากเป็นไปตามที่คาดหมาย จีนจะก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่แห่งนโยบายการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน ขณะที่แผนพัฒนาฉบับที่ 11 ระยะเวลา 5 ปี(2549-2553)เป็นการตั้งเป้าหมายการประหยัดพลังงานให้ได้ร้อยละ20

“เราควรมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยี ที่ใช้ก๊าซคาร์บอนในระดับต่ำ และวิธีแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่ไม่สร้างมลพิษ” นายเหอระบุ “ นั่นจะเป็นเครื่องจักรทางเศรษฐกิจตัวใหม่สำหรับผลักดันการเติบโตของจีนต่อไป"

มีการคาดการณ์กันว่า เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยจีดีพีของจีนน่าจะโตถึงร้อยละ 8 หลังจากพ้นภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนก็กำลังหาแนวทางใหม่ในการรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียงมองว่าต้องเป็นไปในแนวทางของการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน, การพัฒนาพลังงานสะอาด และสนับสนุนการปกป้องสิ่งแวดล้อม

ด้านนายหลิว จี รองผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานแห่งชาติเปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังมีการร่างแผนพัฒนาพลังงานทางเลือกใหม่ ซึ่งพร้อมเข้าสู่การพิจารณาอนุมัติจากรัฐบาลโดยเร็วที่สุด

ตามร่างแผนฉบับนี้ ขั้นตอนแรกได้แก่การเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์ ระยะเวลา 3 ปี สำหรับพลังงานนิวเคลียร์ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานชีวภาพ และเทคโนโลยีการใช้ถ่านหินสะอาด ซึ่งใช้เงินลงทุนสูงถึง 3 ล้านล้านหยวน(438,900 ล้านดอลลาร์)สำหรับขั้นตอนที่สองนั้น มีระยะเวลาครอบคลุมถึงปี 2563 ซึ่งจะมีการลงทุนเพิ่มเติมต่อไป

คณะวิจัยของคณะกรรมาธิการเพื่อการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติ(NDRC) ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายวางนโยบายของจีนคาดการณ์ว่า ยุทธศาสตร์พัฒนาพลังงานสะอาดของจีนจะสร้างโอกาสการลงทุนอย่างมหาศาลสำหรับนักลงทุนภาครัฐและเอกชนเลยทีเดียว

จีนต้องใช้เงินสูงถึงอย่างน้อย 40 ล้านล้านหยวนภายในปี 2593 เพื่อก้าวไปสู่ “สีเขียว” คณะผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยพลังงานของ NDRC ระบุ

เมื่อการลงทุนปรากฏผล การปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหัวประชากรของประเทศจะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ50 ในช่วงปี 2553-2593 กล่าวคือจากปัจจุบัน 4 ตัน เป็น 6 ตัน ขณะที่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหัวประชากรของจีนในปี 2547 อยู่ที่ 3.58 ตัน

ระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกดังกล่าวควรกำหนดเป็นเป้าหมายแห่งชาติ โดยที่คาดว่ารายได้ต่อหัวประชากรจะเพิ่มจาก 20,000 หยวนในปี2553 อีก 10 เท่า เป็น200,000 หยวนภายในปี 2593

ทั้งนี้ แผนกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนได้รับการยอมรับจากนานาชาติ โดยสถาบันทรัพยากรแห่งโลก(World Resources Institute) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ระบุเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ราวร้อยละ38 ของการลงทุนในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนเกี่ยวข้อง“โดยตรง หรือโดยอ้อม” กับการปกป้องสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตาม แม้มีการดำเนินการต่างๆ เหล่านี้ ทว่าบางภูมิภาคในจีนยังไม่มีความคืบหน้าในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม

นายหลี่ กันเจี๋ย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ตั้งข้อสงสัยว่า คณะผู้บริหารท้องถิ่นในมณฑลต่างๆ จะสามารถบังคับใช้มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่หรือไม่

นายหลี่เสนอทางออกสำหรับปัญหานี้ก็คือควรมีการเปลี่ยนแปลงระบบการประเมินผลการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐเสียใหม่

“ ถ้าเราไล่พวกเขาออก เมื่อไม่สามารถปกป้องสิ่งแวดล้อมและปฏิบัติตามเป้าการลดก๊าซคาร์บอนได้ เศรษฐกิจของเราจะเห็นการพัฒนาที่หยั่งยืนมากกว่านี้” นายหลี่กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น