เอเจนซี -จีเอ็มยักษ์ใหญ่รถยนต์สัญชาติเมกาที่กำลังกระเสือกกระสนอยู่ในตลาดบ้านเกิดหลังยื่นล้มละลาย กลับมีอนาคตสดใสในตลาดจีน ยอดขายครึ่งปีแรก 2552นี้ ขยายตัวร้อยละ 38 เทียบกับช่วงเดี่ยวกันของปีก่อนหน้า โดยจำนวนรถที่ขายออกเท่ากับ 814,442 คัน
ตลาดรถยนต์ในจีนซึ่งมีประชากรมากสุดในโลก ถึง 1,300 ล้านคนนี้ สดใสกว่าตลาดแห่งอื่นๆในโลก เนื่องจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนที่ให้การอุดหนุนภาครถยนต์ทั้งลดภาษีซื้อขายรถยนต์เครื่องยนต์ขนาดเล็ก และอุดหนุนการซื้อรถยนต์ทางเลือกที่ประหยัดพลังงาน กอปรด้วยการขยายตัวของความต้องการตามเขตชนบทและกลุ่มเมืองขนาดกลาง
“ตลาดพาหนะในจีนยังมีแนวโน้มการขยายตัวที่โดดเด่นที่สุด” จากแถลงคาดการณ์การตลาดของรถยนต์ โดยเควิน เวล (Kevin Wale) ประธานบริษัท จี เอ็ม ไชน่า กรุ๊ป ชี้
สำหรับยอดขายของธุรกิจร่วมทุนของจีเอ็ม จีน กับเซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสเทียล คอร์ป ก็อยู่ในช่วงขาขึ้น โดยขยายตัวร้อยละ 49.9 เท่ากับ 524,598 หน่วย ขณะที่ยอดขายของธุรกิจร่วมทุนกับเซี่ยงไฮ้ เจนเนอรัล มอเตอร์ คอร์ป เท่ากับ 288,843 คัน
กิจการจีเอ็มในจีนไปได้สวย ผิดกับสถานการณ์ของบริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกาที่ยื่นขอความคุ้มครองจากการล้มละลาย สะท้อนว่าตลาดเอเชียมีความสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์โลกมากขึ้น
ปัญหาของจีเอ็มยิ่งปรากฏชัดเจนยิ่งขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จากการที่ซื่อชวน(เสฉวน) เถิงจง เฮวี่ อิดัสเทียล แมชีนเนอรี่ บริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรเล็กๆในจีน ยื่นประมูลซื้อหน่วยปฏิบัติการแบรนด์รถยนต์ Hummer ของจีเอ็ม ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสื่อจีนว่ารัฐบาลจีนอาจขวางดีลซื้อขายนี้เนื่องจากเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อมและศักยภาพของซื่อชวน เถิงจง
สมาคมรถยนต์โดยสารแห่งประเทศจีนคาดการณ์ยอดขายรถยนต์ในจีนภายในปีนี้ จะทำลายสถิติที่ 11 ล้านหน่วย โดยยอดขายรถในครึ่งปีที่เหลือจะสูงกว่าช่วงห้าเดือนแรกที่ผ่านมา
กลุ่มนักวิเคราะห์ชี้ขณะนี้แม้จีนมียอดขายรถแซงหน้าสหรัฐฯเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา กลายเป็นตลาดรถขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่ประเมินจากรากฐานของตลาดในจีนและสหรัฐฯ จีนก็ดูจะครองแชมป์ทำยอดขายรถเช่นนี้อยู่ได้ไม่นาน
“แม้ความสำคัญในตลาดรถยนต์ของจีนจะมีเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่มีแนวโน้มที่จะแทนที่สหรัฐฯอย่างถาวร จีนอาจแซงหน้าสหรัฐฯในปีนี้ แต่ขณะเดียวกัน ตลาดสหรัฐฯก็กำลังกระเตื้องตามทฤษฎีขึ้นลงแบบรูปตัว V สหรัฐฯเป็นจ้าวตลาดรถยนต์อันดับหนึ่งของโลกด้วยยอดขาย 16-17 ล้านหน่วย ซึ่งดูแล้วตลาดจีนยังไปไม่ถึงระดับนั้น” นายจอห์น เจิงนักวิเคราะห์ประจำบริษัทที่ปรึกษา consultancy IHS Global Insight ที่มีฐานในนครเซี่ยงไฮ้ ชี้
