xs
xsm
sm
md
lg

GMขายแบรนด์ "ฮัมเมอร์" ให้บริษัทจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รถยนต์ ฮัมเมอร์ของจีเอ็ม จะถูกขายให้กับบริษัทจีน
เอเอฟพี - เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ประกาศเมื่อวันอังคาร (2) ว่าจะขายแบรนด์รถยนต์ "ฮัมเมอร์" ให้แก่บริษัทของจีน โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างระหว่างอยู่ในภาวะล้มละลายของจีเอ็ม ซึ่งจะขายสินทรัพย์ส่วนเกินออกไป ให้เหลือแต่ธุรกิจหลักที่แข็งแกร่งเท่านั้น

ข่าวการขายฮัมเมอร์(Hummer)นี้ ประกาศออกมา ในระหว่างที่บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลายกรายงานผลการขายประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้นจากเดือนก่อน ๆ แม้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนแล้ว ยอดขายยังคงติดลบอยู่มากก็ตาม

จีเอ็มซึ่งเพิ่งยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อเข้าสู่ภาวะล้มละลายเมื่อวันจันทร์(1) ระบุว่า จะขายแบรนด์ฮัมเมอร์ ให้แก่บริษัทผลิตเครื่องจักรกลอุตสาหกรรมของจีนชื่อ ซื่อชวน เถิงจง (Sichuan Tengzhong)

ทั้งนี้เถิงจงจะเข้าครอบครองสิทธิ์การเป็นเจ้าของแบรนด์ รวมทั้งมารับช่วงสัญญที่ทำไว้กับพวกตัวแทนจำหน่ายด้วย

จีเอ็มหวังไว้ว่า ข้อตกลงนี้น่าจะสามารถรักษาตำแหน่งงานในสหรัฐฯราว 3,000 ตำแหน่งเอาไว้ได้ เพราะในเงื่อนไขก็คือคงการผลิตรถยนต์เอสยูวีรุ่นใหญ่นี้ไว้ในสหรัฐฯต่อไป โดยที่จีเอ็มนั้นอาจจะยังคงเป็นผู้รับจ้างผลิตรถยนต์ฮัมเมอร์ให้แก่เถิงจง

เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว จีเอ็มบอกว่ากำลังพิจารณาว่าจะทำอย่างไรกับฮัมเมอร์ดี หลังจากที่ยอดขายดิ่งลงไปถึง 51% เมื่อปีที่แล้ว

นอกจากฮัมเมอร์แล้ว ตอนนี้ผู้บริหารของจีเอ็มยังกำลังพิจารณาข้อเสนอซื้อแบรนด์รถยนต์แซทเทิร์น และซาบ ที่มีผู้สนใจเสนอเข้ามา โดยเฉพาะซาบ บริษัทรถยนต์ของจีเอ็มในสวีเดนนั้นมีผู้เสนอซื้อมาแล้วสามรายด้วยกัน

เกี่ยวกับความคืบหน้าในเรื่องขอล้มละลาย จีเอ็มแถลงว่าทางผู้พิพากษาได้อนุมัติให้บริษัทยังคงผลิตรถยนต์ต่อไป รวมทั้งการจ่ายเงินให้กับพนักงานและซัปพลายเออร์ ตลอดจนให้สามารถกู้ยืมเงินจากรัฐบาลสหรัฐฯและแคนาดารวม 33,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ผู้พิพากษารอเบิร์ต เกอร์เบอร์ นัดวันพิจารณาเรื่องการขายสินทรัพย์ของจีเอ็มไว้ในวันที่ 30 เดือนนี้ โดยตามแผนนั้นจีเอ็มจะขายสินทรัพย์ส่วนที่ยังไปได้ ให้กับบริษัทจีเอ็มใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้นมาโดยมีรัฐบาลสหรัฐฯเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และมีรัฐบาลแคนาดา ผู้ถือหุ้นกู้ของจีเอ็ม และสหภาพแรงงานเป็นผู้ถือหุ้นร่วมด้วย

ประธานและซีอีโอของจีเอ็ม ฟริตซ์ เฮนเดอร์สันกล่าวว่าคำสั่งศาลที่ออกมาครั้งนี้ "ให้หลักประกันความมั่นใจแก่ลูกค้า และทำให้จีเอ็มสามารถเดินหน้าการผลิตได้ต่อ ในขณะที่มีการจัดตั้งจีเอ็มใหม่ขึ้นมารับช่วงต่อไป"

ในการยื่นเรื่องขอล้มละลาย จีเอ็มแจกแจงว่าตนเองมีสินทรัพย์อยู่ 82,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่มีหนี้อยู่ถึง 172,800 ล้านดอลลาร์ นับว่าเป็นการล้มละลายที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐฯเลยทีเดียว

สำหรับยอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯประจำเดือนพฤษภาคมนั้น จีเอ็มแถลงว่าบริษัทตนทำได้ 191,875 คัน ลดลง 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 11% จากเดือนเมษายนที่ผ่านมา และเป็นยอดสูงสุดในรอบปี 2009 อีกทั้งทำให้เพิ่มส่วนแบ่งตลาดสหรัฐฯของจีเอ็มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ทางด้านฟอร์ดมอเตอร์ แจ้งว่ายอดขายเดือนพฤษภาคมก็ลดลง 24% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 20% จากเดือนเมษายน

ส่วนยอดขายของโตโยต้านั้นย่ำแย่ที่สุด โดยร่วงลงมาถึง 38% ในเดือนพฤษภาคมเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่หากเทียบกับเดือนเมษายนก็เพิ่มขึ้นถึง 21%

และยอดขายเดือนที่ผ่านมาของไครสเลอร์ดิ่งลงไป 30%จากหนึ่งปีก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดือนเมษายนโดยขายได้ถึง 79,010 คันและคิดเป็นยอดขายประจำเดือนที่สูงสุดในปีนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น