เอเจนซี-จีนเดินหน้าขยายอิทธิพลเงินหยวน ลดพึ่งดอลลาร์สหรัฐฯ โดยนายใหญ่ธนาคารกลางจีนและฮ่องกงลงนามข้อตกลงใช้สกุลเงินหยวนชำระเงินในการค้าระหว่างดินแดนแล้ว หลังจากที่จีนและบราซิลเดินหน้าศึกษาการบรรลุแผนการใช้เงินท้องถิ่นในการค้าระหว่างประเทศ แทนเงินดอลาร์สหรัฐฯ
ในวันจันทร์(29 มิ.ย.) ผู้ว่าการธนาคารประชาชนจีน หรือธนาคารกลางจีน และผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งฮ่องกง นาย โจเซฟ ยัม จรดหมึกข้อตกลงว่าด้วยการใช้สกุลเงินหยวนในระบบชำระเงินในการค้าระหว่างดินแดน โดยยัมเผยว่าการใช้เงินหยวนสำหรับชำระค่าสินค้าอาจเริ่มในเดือนหน้า
ฟาง หมิง นักวิเคราะห์ประจำธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China) ในกรุงปักกิ่งชี้ว่าความเคลื่อนไหวนี้เป็นก้าวสำคัญในการผลักดันเงินหยวนเป็นสกุลเงินระหว่างประเทศ ในระยะยาวระบบทุนสำรองเงินตราโลกก็จะประกอบด้วยสกุลเงินหลายสกุล รวมทั้งหยวน และยูโร ซึ่งปัจจุบันทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศมีเพียงดอลลาร์สหรัฐฯ
ขณะนี้รัฐบาลจีนกำลังขยายการใช้เงินหยวนในระบบการเงินและการค้าระหว่างประเทศ และในวันที่ 8 เมษายน รัฐบาลก็แถลงการณ์ไฟเขียวนครเซี่ยงไฮ้ และ 4 เมืองใหญ่ในภาคใต้ อาทิ เซินเจิ้น กว่างตง ใช้เงินหยวนในการซื้อขายระหว่างดินแดน
นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนยังตกลงสวอปเงินกับอาร์เจนติน่า เบลารุส ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเกาหลีใต้ รวม 650,000 ล้านหยวน (95,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพื่อขยายการใช้สกุลเงินหยวน
ขณะที่จีนและบราซิลก็กำลังเริ่มศึกษาการใช้เงินท้องถิ่นในการค้าระหว่างกัน และค่อยๆเลิกใช้ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยนายโจว เสี่ยวชวนประชุมนอกรอบกับผู้ว่าธนาคารกลางบราซิล นาย Henrique Meirelles ระหว่างการประชุมกลุ่มผู้ว่าธนาคารกลางที่เมืองบาเซิลเมื่อวันอาทิตย์(28 มิ.ย.) สวิสเซอร์แลนด์ ทั้งสองฝ่ายตกลงในหลักการใช้เงินท้องถิ่นได้แก่ หยวนของจีน และฮายส์(reais) ของบราซิล ในการค้าระหว่างประเทศ ขณะนี้ทั้งสองกำลังศึกษาเพื่อบรรลุแผนการดังกล่าว
“เราตกลงกันเริ่มศึกษาการบรรลุแผนทำการค้าด้วยสกุลเงินท้องถิ่นของพวกเราในการชำระบัญชีการค้าและโครงการลงทุน โดยจะค่อยๆเลิกใช้ดอลลาร์สหรัฐฯ”
ดอลลาร์ฯแกว่งเมื่อจีนพูดถึงนยบ.ทุนสำรองเงินตราโลก
นายใหญ่ธนาคารกลางแห่งประเทศจีนโจว เสี่ยวชวนลูบหลังมะกัน ยันนโยบายทุนสำรองสกุลเงินต่างประเทศของประเทศจีนไม่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ดันดอลลาร์กระเตื้องขึ้นหลังจากที่สลดไปสองวัน
ระหว่างการประชุมกลุ่มผู้ว่าธนาคารกลางโลกที่เมืองบาเซิล สวิสเซอร์แลนด์เมื่อวันศุกร์(26 มิ.ย.)นายโจว เสี่ยวชวน รื้อฟื้นการจัดสรรทุนสำรองสกุลเงินระหว่างประเทศใหม่ ซึ่งเป็นการตอกย้ำกระแสเก็งว่าจีนกำลังปรับความหลากหลายในทุนสำรองสกุลเงินต่างประเทศของตนซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยมูลค่าสินทรัพย์ 1.95 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ
คำพูดของนายโจว เสี่ยวชวน ซึ่งลั่นออกมาในช่วงจังหวะที่สหรัฐฯต้องการความช่วยเหลือจากจีนในการหาทางออกจากภาวะถดถอยนั้น ทำให้ดอลลาร์ร่วงลงไปทันทีร้อยละ 1 และปิดลงที่ร้อยละ 0.7 ในวันเดียวกันนั้น กระทั่งในวานนี้(28 มิ.ย.) โจว เสี่ยวชวนบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “นโยบายทุนสำรองอัตราแลกเปลี่ยนของเรามั่นคงเสมอ”
คำกล่าวในวานนี้ของโจว เสี่ยวชวนทำให้ดอลลาร์ กระเตื้องขึ้นร้อยละ 0.2 เท่ากับ 80.07 ในเช้าวันจันทร์ที่ตลาดฮ่องกง
จากตัวเลขกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟเมื่อปลายปี 2551 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ครองสัดส่วนร้อยละ 64 ในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศโลก นับเป็นสัดส่วนที่ลดลงจากร้อยละ 73 ในปี 2544
และปัจจุบันจีนเป็นเจ้าหนี้ต่างชาติรายใหญ่สุดของวอชิงตัน โดยกลุ่มนักลงทุนจีนซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯมากที่สุด แต่เมื่อนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าแสดงความวิตกต่อดอลลาร์สหรัฐฯ กลุ่มนักลงทุนจีนก็ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ โดยในเดือนเมษายนมูลค่าพันธบัตรสหรัฐฯในมือกลุ่มนักลงทุนจีน เท่ากับ 763,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจาก 767,900 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนมีนาคม นับเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่จีนลงทุนซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่มในเดือนมิถุนายน 2551
ในวันจันทร์(29 มิ.ย.) ผู้ว่าการธนาคารประชาชนจีน หรือธนาคารกลางจีน และผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งฮ่องกง นาย โจเซฟ ยัม จรดหมึกข้อตกลงว่าด้วยการใช้สกุลเงินหยวนในระบบชำระเงินในการค้าระหว่างดินแดน โดยยัมเผยว่าการใช้เงินหยวนสำหรับชำระค่าสินค้าอาจเริ่มในเดือนหน้า
ฟาง หมิง นักวิเคราะห์ประจำธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China) ในกรุงปักกิ่งชี้ว่าความเคลื่อนไหวนี้เป็นก้าวสำคัญในการผลักดันเงินหยวนเป็นสกุลเงินระหว่างประเทศ ในระยะยาวระบบทุนสำรองเงินตราโลกก็จะประกอบด้วยสกุลเงินหลายสกุล รวมทั้งหยวน และยูโร ซึ่งปัจจุบันทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศมีเพียงดอลลาร์สหรัฐฯ
ขณะนี้รัฐบาลจีนกำลังขยายการใช้เงินหยวนในระบบการเงินและการค้าระหว่างประเทศ และในวันที่ 8 เมษายน รัฐบาลก็แถลงการณ์ไฟเขียวนครเซี่ยงไฮ้ และ 4 เมืองใหญ่ในภาคใต้ อาทิ เซินเจิ้น กว่างตง ใช้เงินหยวนในการซื้อขายระหว่างดินแดน
นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนยังตกลงสวอปเงินกับอาร์เจนติน่า เบลารุส ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเกาหลีใต้ รวม 650,000 ล้านหยวน (95,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพื่อขยายการใช้สกุลเงินหยวน
ขณะที่จีนและบราซิลก็กำลังเริ่มศึกษาการใช้เงินท้องถิ่นในการค้าระหว่างกัน และค่อยๆเลิกใช้ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยนายโจว เสี่ยวชวนประชุมนอกรอบกับผู้ว่าธนาคารกลางบราซิล นาย Henrique Meirelles ระหว่างการประชุมกลุ่มผู้ว่าธนาคารกลางที่เมืองบาเซิลเมื่อวันอาทิตย์(28 มิ.ย.) สวิสเซอร์แลนด์ ทั้งสองฝ่ายตกลงในหลักการใช้เงินท้องถิ่นได้แก่ หยวนของจีน และฮายส์(reais) ของบราซิล ในการค้าระหว่างประเทศ ขณะนี้ทั้งสองกำลังศึกษาเพื่อบรรลุแผนการดังกล่าว
“เราตกลงกันเริ่มศึกษาการบรรลุแผนทำการค้าด้วยสกุลเงินท้องถิ่นของพวกเราในการชำระบัญชีการค้าและโครงการลงทุน โดยจะค่อยๆเลิกใช้ดอลลาร์สหรัฐฯ”
ดอลลาร์ฯแกว่งเมื่อจีนพูดถึงนยบ.ทุนสำรองเงินตราโลก
นายใหญ่ธนาคารกลางแห่งประเทศจีนโจว เสี่ยวชวนลูบหลังมะกัน ยันนโยบายทุนสำรองสกุลเงินต่างประเทศของประเทศจีนไม่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ดันดอลลาร์กระเตื้องขึ้นหลังจากที่สลดไปสองวัน
ระหว่างการประชุมกลุ่มผู้ว่าธนาคารกลางโลกที่เมืองบาเซิล สวิสเซอร์แลนด์เมื่อวันศุกร์(26 มิ.ย.)นายโจว เสี่ยวชวน รื้อฟื้นการจัดสรรทุนสำรองสกุลเงินระหว่างประเทศใหม่ ซึ่งเป็นการตอกย้ำกระแสเก็งว่าจีนกำลังปรับความหลากหลายในทุนสำรองสกุลเงินต่างประเทศของตนซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยมูลค่าสินทรัพย์ 1.95 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ
คำพูดของนายโจว เสี่ยวชวน ซึ่งลั่นออกมาในช่วงจังหวะที่สหรัฐฯต้องการความช่วยเหลือจากจีนในการหาทางออกจากภาวะถดถอยนั้น ทำให้ดอลลาร์ร่วงลงไปทันทีร้อยละ 1 และปิดลงที่ร้อยละ 0.7 ในวันเดียวกันนั้น กระทั่งในวานนี้(28 มิ.ย.) โจว เสี่ยวชวนบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “นโยบายทุนสำรองอัตราแลกเปลี่ยนของเรามั่นคงเสมอ”
คำกล่าวในวานนี้ของโจว เสี่ยวชวนทำให้ดอลลาร์ กระเตื้องขึ้นร้อยละ 0.2 เท่ากับ 80.07 ในเช้าวันจันทร์ที่ตลาดฮ่องกง
จากตัวเลขกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟเมื่อปลายปี 2551 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ครองสัดส่วนร้อยละ 64 ในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศโลก นับเป็นสัดส่วนที่ลดลงจากร้อยละ 73 ในปี 2544
และปัจจุบันจีนเป็นเจ้าหนี้ต่างชาติรายใหญ่สุดของวอชิงตัน โดยกลุ่มนักลงทุนจีนซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯมากที่สุด แต่เมื่อนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าแสดงความวิตกต่อดอลลาร์สหรัฐฯ กลุ่มนักลงทุนจีนก็ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ โดยในเดือนเมษายนมูลค่าพันธบัตรสหรัฐฯในมือกลุ่มนักลงทุนจีน เท่ากับ 763,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจาก 767,900 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนมีนาคม นับเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่จีนลงทุนซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่มในเดือนมิถุนายน 2551
