เอเอฟพี – อดีตแกนนำนักศึกษาในการชุมนุมประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน แอบเข้ามาเก๊า ก่อนถึงวันครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์ล้อมปราบประชาชน พร้อมเปิดเผยว่า เขาอยากหวนคืนแดนมังกรอีกครั้งและต้องการใช้ศาลยุติธรรมจีนเป็นที่อธิบายถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น ระบุ ทางการจีนควรยอมรับว่าได้ก่ออาชญากรรมและให้นำคนผิดมาลงโทษ
หวูเอ่อ ไค่ซี อดีตแกนนำนักศึกษาในเหตุการณ์เทียนอันเหมิน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพีทางโทรศัพท์ว่า เขาเดินทางจากไทเปมายังมาเก๊าเมื่อเย็นวันพุธ (3 มิ.ย.) ก่อนถึงวันครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์เทียนอันเหมิน และต้องการเดินทางผ่านมาเก๊าไปยังตอนใต้ของจีน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของมาเก๊ากักตัวไว้ และขอให้เขาเดินทางกลับไทเป แต่เขาปฏิเสธ
“ผมจะไม่เดินทางกลับไต้หวัน เว้นแต่ทางการจีนจะเนรเทศผมออกไป” หวูเอ่อเผยกับเอเอฟพี
ก่อนที่โปรตุเกสจะส่งคืนมาเก๊าให้แก่จีน ได้มีข้อตกลงว่ามาเก๊าถือเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน แต่การบังคับใช้กฎหมายและนโยบายการตรวจคนเข้าเมืองจะแยกเป็นอิสระจากจีน
หวูเอ่อ ไค่ซี ซึ่งมีพื้นเพมาจากชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ ถือเป็นอดีตแกนนำนักศึกษาที่ทางการจีนต้องการตัวมากเป็นอันดับสอง จากการเป็นผู้นำการประท้วงที่ยุติลงเมื่อทางการจีนส่งกองกำลังทหารเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2532 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อยนับพันคน
ภายหลังเหตุการณ์ หวูเอ่อสามารถหลบหนีออกนอกประเทศได้ ปัจจุบันเขาได้อาศัยอยู่ในไต้หวันและทำงานเป็นนายธนาคารเพื่อการลงทุน
ในแถลงการณ์ที่กลุ่มผู้จัดการประท้วงเหตุการณ์เทียนอันเหมินในไทเปได้ร่างขึ้น หวูเอ่อได้ระบุว่า เขาต้องการมอบตัวกับทางการจีนในโอกาสครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์เทียนอันเหมิน
“หลังจากมอบตัวแล้ว ผมจะใช้ศาลยุติธรรมของจีนเป็นที่แสดงความคิดเห็นและอภิปรายถึงเหตุการณ์เทียนอันเหมิน ผมต้องการให้รัฐบาลจีนยอมรับว่าได้ก่ออาชญากรรมและกล่าวขอโทษต่อสาธารณชน พร้อมกับนำตัวผู้รับผิดชอบมาลงโทษ และกล่าวขออภัยแก่ครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น” หวูเอ่อ ระบุพร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า เขาไม่ได้กระทำผิดใดๆ ในเหตุการณ์เมื่อ 20 ปีที่แล้ว
หวูเอ่อ กล่าวด้วยว่า เขาไม่ได้พบหน้าพ่อและแม่มาถึง 20 ปีแล้ว เพราะไม่สามารถเดินทางเข้าจีนแผ่นดินใหญ่ได้ ส่วนพ่อและแม่ของเขาก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ
“นี่คือความโหดร้ายและการกระทำที่น่าละอายของรัฐบาลจีน เพราะมันขัดต่อหลักการมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและยังขัดต่อประเพณีของจีนด้วย”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดความพยายามของหวูเอ่อเป็นอันล้มเหลว โดยในวันพฤหัสบดี (4 มิ.ย.) หวูเอ่อก็ได้ถูกส่งตัวกลับไต้หวัน โดยเขากล่าวกับผู้สื่อข่าวที่สนามบินนอกเมืองไทเปว่า “ผมเสียใจมากที่ยังไม่สามารถไปพบกับพ่อและแม่ได้ และความตั้งใจที่จะมอบตัวแก่ทางการจีนต้องเป็นหมัน”
เขากล่าวด้วยว่า “รัฐบาลจีนพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว...ทางการจีนต้องการตัวผม แต่ทำไมไม่ยอมรับการมอบตัวของผม ทำให้สงสัยว่าจีนเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่จริงหรือ”
นอกจากนี้ หวูเอ่อ ไค่ซี ยังแสดงความผิดหวังที่ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว ของไต้หวัน ได้กล่าวว่า จีนเต็มใจที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยเขากล่าวว่า “มันใช่เวลาที่จะมาชื่นชมจีนอย่างนั้นหรือ ผมกำลังทุกข์ทรมานอย่างมากที่ไม่ได้พบพ่อและแม่ผมถึง 20 ปี และผมขอเรียกร้องให้ประธานาธิบดีหม่านำความยุติธรรมมาให้ผมด้วย” หวูเอ่อ กล่าวทิ้งท้าย
หวูเอ่อ ไค่ซี กลายเป็นคนดังเพียงข้ามคืน หลังจากเขาได้พูดขัดจังหวะอดีตนายกรัฐมนตรีหลี่ เผิง ของจีน ในการพบปะกันระหว่างนักศึกษาและนักการเมือง ที่ออกอากาศสดในรายการโทรทัศน์ของจีนเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2532 เขาถูกมองว่าเป็นผู้นำนักศึกษาหัวแข็ง และได้เข้าร่วมอดข้าวประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน จนต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (2 มิ.ย.) เซี่ยง เสี่ยวจี๋ อดีตผู้นำนักศึกษาจีนอีกรายหนึ่ง ก็ถูกทางการฮ่องกงสั่งห้ามเข้าไปร่วมงานรำลึกครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์ที่เทียนอันเหมิน และถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกงส่งขึ้นเครื่องบินไปนครนิวยอร์ค ทำให้องค์กรนิรโทษกรรมสากลและกงศุลสหรัฐฯ ได้ออกมาประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่ฮ่องกง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันเสาร์ที่ 30 พ.ค. สง เหยียน อดีตแกนนำการประท้วง และเป็น 1 ใน 21 คนที่ทางการจีนต้องการตัวมากที่สุด ต้องประหลาดใจเมื่อเขาได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าฮ่องกงได้
หวูเอ่อ ไค่ซี อดีตแกนนำนักศึกษาในเหตุการณ์เทียนอันเหมิน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพีทางโทรศัพท์ว่า เขาเดินทางจากไทเปมายังมาเก๊าเมื่อเย็นวันพุธ (3 มิ.ย.) ก่อนถึงวันครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์เทียนอันเหมิน และต้องการเดินทางผ่านมาเก๊าไปยังตอนใต้ของจีน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของมาเก๊ากักตัวไว้ และขอให้เขาเดินทางกลับไทเป แต่เขาปฏิเสธ
“ผมจะไม่เดินทางกลับไต้หวัน เว้นแต่ทางการจีนจะเนรเทศผมออกไป” หวูเอ่อเผยกับเอเอฟพี
ก่อนที่โปรตุเกสจะส่งคืนมาเก๊าให้แก่จีน ได้มีข้อตกลงว่ามาเก๊าถือเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน แต่การบังคับใช้กฎหมายและนโยบายการตรวจคนเข้าเมืองจะแยกเป็นอิสระจากจีน
หวูเอ่อ ไค่ซี ซึ่งมีพื้นเพมาจากชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ ถือเป็นอดีตแกนนำนักศึกษาที่ทางการจีนต้องการตัวมากเป็นอันดับสอง จากการเป็นผู้นำการประท้วงที่ยุติลงเมื่อทางการจีนส่งกองกำลังทหารเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2532 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อยนับพันคน
ภายหลังเหตุการณ์ หวูเอ่อสามารถหลบหนีออกนอกประเทศได้ ปัจจุบันเขาได้อาศัยอยู่ในไต้หวันและทำงานเป็นนายธนาคารเพื่อการลงทุน
ในแถลงการณ์ที่กลุ่มผู้จัดการประท้วงเหตุการณ์เทียนอันเหมินในไทเปได้ร่างขึ้น หวูเอ่อได้ระบุว่า เขาต้องการมอบตัวกับทางการจีนในโอกาสครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์เทียนอันเหมิน
“หลังจากมอบตัวแล้ว ผมจะใช้ศาลยุติธรรมของจีนเป็นที่แสดงความคิดเห็นและอภิปรายถึงเหตุการณ์เทียนอันเหมิน ผมต้องการให้รัฐบาลจีนยอมรับว่าได้ก่ออาชญากรรมและกล่าวขอโทษต่อสาธารณชน พร้อมกับนำตัวผู้รับผิดชอบมาลงโทษ และกล่าวขออภัยแก่ครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น” หวูเอ่อ ระบุพร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า เขาไม่ได้กระทำผิดใดๆ ในเหตุการณ์เมื่อ 20 ปีที่แล้ว
หวูเอ่อ กล่าวด้วยว่า เขาไม่ได้พบหน้าพ่อและแม่มาถึง 20 ปีแล้ว เพราะไม่สามารถเดินทางเข้าจีนแผ่นดินใหญ่ได้ ส่วนพ่อและแม่ของเขาก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ
“นี่คือความโหดร้ายและการกระทำที่น่าละอายของรัฐบาลจีน เพราะมันขัดต่อหลักการมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและยังขัดต่อประเพณีของจีนด้วย”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดความพยายามของหวูเอ่อเป็นอันล้มเหลว โดยในวันพฤหัสบดี (4 มิ.ย.) หวูเอ่อก็ได้ถูกส่งตัวกลับไต้หวัน โดยเขากล่าวกับผู้สื่อข่าวที่สนามบินนอกเมืองไทเปว่า “ผมเสียใจมากที่ยังไม่สามารถไปพบกับพ่อและแม่ได้ และความตั้งใจที่จะมอบตัวแก่ทางการจีนต้องเป็นหมัน”
เขากล่าวด้วยว่า “รัฐบาลจีนพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว...ทางการจีนต้องการตัวผม แต่ทำไมไม่ยอมรับการมอบตัวของผม ทำให้สงสัยว่าจีนเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่จริงหรือ”
นอกจากนี้ หวูเอ่อ ไค่ซี ยังแสดงความผิดหวังที่ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว ของไต้หวัน ได้กล่าวว่า จีนเต็มใจที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยเขากล่าวว่า “มันใช่เวลาที่จะมาชื่นชมจีนอย่างนั้นหรือ ผมกำลังทุกข์ทรมานอย่างมากที่ไม่ได้พบพ่อและแม่ผมถึง 20 ปี และผมขอเรียกร้องให้ประธานาธิบดีหม่านำความยุติธรรมมาให้ผมด้วย” หวูเอ่อ กล่าวทิ้งท้าย
หวูเอ่อ ไค่ซี กลายเป็นคนดังเพียงข้ามคืน หลังจากเขาได้พูดขัดจังหวะอดีตนายกรัฐมนตรีหลี่ เผิง ของจีน ในการพบปะกันระหว่างนักศึกษาและนักการเมือง ที่ออกอากาศสดในรายการโทรทัศน์ของจีนเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2532 เขาถูกมองว่าเป็นผู้นำนักศึกษาหัวแข็ง และได้เข้าร่วมอดข้าวประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน จนต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (2 มิ.ย.) เซี่ยง เสี่ยวจี๋ อดีตผู้นำนักศึกษาจีนอีกรายหนึ่ง ก็ถูกทางการฮ่องกงสั่งห้ามเข้าไปร่วมงานรำลึกครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์ที่เทียนอันเหมิน และถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกงส่งขึ้นเครื่องบินไปนครนิวยอร์ค ทำให้องค์กรนิรโทษกรรมสากลและกงศุลสหรัฐฯ ได้ออกมาประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่ฮ่องกง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันเสาร์ที่ 30 พ.ค. สง เหยียน อดีตแกนนำการประท้วง และเป็น 1 ใน 21 คนที่ทางการจีนต้องการตัวมากที่สุด ต้องประหลาดใจเมื่อเขาได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าฮ่องกงได้