เอเอฟพี - เอไอจี อดีตบริษัทประกันภัยอันดับหนึ่งของโลกประกาศเมื่อวานนี้(18)ว่าจะ "เร่งความคืบหน้า" ในการแยกเอา "เอไอเอ" ซึ่งเป็นบริษัทลูก ออกมาเป็นกิจการอิสระ โดยผ่านการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งเป็นภูมิภาคที่เอไอเอดำเนินธุรกิจอยู่
อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี) แถลงว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการบริหารและฝ่ายบริหารของบริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล แอสชัวรันซ์ (เอไอเอ) ขึ้น เพื่อเดินหน้าบริหารงานบริษัทที่เป็นอิสระจากบริษัทแม่แล้ว หลังจากที่เอไอเอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ก็ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดว่าจะเข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ของประเทศใด
ในคำแถลงของเอไอจีกล่าวอีกว่า "บริษัทจะเร่งขั้นตอนการทำให้เอไอเอเป็นองค์การอิสระ รวมทั้งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศเอเชีย อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขึ้นกับสถานการณ์และกระบวนยื่นขออนุมัติด้วย"
การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เช่นนี้ เป็นความพยายามของเอไอจีที่จะแยกเอไอเอให้ห่างจากบริษัทแม่ให้มากที่สุด เนื่องจากตอนนี้ชื่อเสียงของเอไอจีมัวหมองลงไปอย่างมากจากสินทรัพย์เน่าเสียมหาศาลจนทำให้ต้องพึ่งพาเงินกู้จากรัฐบาลสหรัฐฯ และก็มีเรื่องอื้อฉาวการให้โบนัสผู้บริหารก้อนโตทั้ง ๆที่ขาดทุนไปนับแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯตามมา
"ในขั้นตอนนี้ เราเชื่อว่าการจดทะเบียนเอไอเอจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ถือหุ้นซึ่งก็รวมทั้งผู้เสียภาษีชาวสหรัฐฯที่ถือหุ้นผ่านรัฐบาล, ผู้ถือกรมธรรม์, พนักงานรวมทั้งหุ้นส่วนผู้ขายกรมธรรม์ทั้งหลาย" เอดเวิร์ด ลิดดี ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอไอจีกล่าว
ทางด้าน มาร์ก วิลสัน กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอไอเอกล่าวว่า การประกาศข่าวเรื่องการจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เป็น "แนวทางอันชัดเจนในการไปสู่ความเป็นเอกเทศของเรา"
แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวกับสำนักข่าวดาว โจนส์ นิวสไวร์ว่า หนึ่งในสามของหุ้นเอไอเอจะนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเพื่อระดมทุน 5,000 -10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ และในวันศุกร์(22)นี้เอไอจีก็จะเชิญธนาคารเพื่อการลงทุนให้เข้ามายื่นข้อเสนอเพื่ออันเดอร์ไรท์หุ้นที่จะเข้าจดทะเบียน
การเข้าจดทะเบียนเป็นความพยายามครั้งที่สองของเอไอจี ที่จะพยายามทำเงินจากเอไอเอที่ยังคงมั่นคงอยู่ให้ได้มากที่สุด เมื่อต้นปีเอไอจีประสบความล้มเหลวในการเสนอขายหุ้น 49% ของเอไอเอ อันเนื่องมาจากนักลงทุนเข้ามาเสนอราคาน้อยรายเต็มที