ออสซี่ใช้ภาพ“นองเลือดเทียนอันเหมิน” ต่อต้านบริษัทแร่จีนซื้อหุ้น"ริโอ ทินโต”

เอเอฟพี – เมื่อวันจันทร์ (1 มิ.ย.) ชาวออสซี่ที่ต่อต้านไชนาลโคซื้อหุ้นยักษ์เหมืองแร่ ริโอ ทินโต ได้ใช้ภาพเหตุการณ์การกวาดล้างผู้ชุมนุมประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.1989 (พ.ศ.2532) มาเป็นโฆษณาทางโทรทัศน์เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแคนเบอร์ราสกัดข้อตกลงดังกล่าว ในขณะที่ทั่วโลกกำลังจับตาวันครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์นองเลือดที่เทียนอันเหมินในวันพฤหัสบดีนี้อยู่

โฆษณาดังกล่าวใช้ภาพเคลื่อนไหวขณะกองทัพจีนเคลื่อนกำลังเข้าสู่จัตุรัสเทียนอันเหมิน พร้อมทั้งตำหนิรัฐบาลออสเตรเลียอย่างรุนแรงเกี่ยวกับแผนขายแหล่งทรัพยากรแร่ของประเทศให้แก่ประเทศที่ใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงที่เรียกร้องประชาธิปไตยนับร้อย หรืออาจเป็นพันคน

นอกจากนี้โฆษณายังแสดงทัศนะต่อต้านแนวความคิดของนายกรัฐมนตรี เควิน รัดด์ที่มีต่อประเทศจีน โดยยกความคิดของ บ็อบ ฮอว์ก อดีตผู้นำที่ดำรงตำแหน่งในช่วงที่เกิดเหตุการณ์นองเลือด

“บ็อบ ฮอว์ก อดีตนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียจากพรรคแรงงาน ถึงกับหลั่งน้ำตาและอนุญาตให้นักศึกษาจีนลี้ภัยมาอยู่ที่ออสเตรเลีย ขณะที่เควิน รัดด์ นายกฯ จากพรรคแรงงานอีกคนกลับให้ของขวัญก้อนโตแก่รัฐบาลทหารจีนด้วยการอนุญาตให้เข้ามาควบคุมแหล่งทรัพยากรเหมืองแร่ที่สำคัญของออสเตรเลีย---นี่เป็นการตัดสินใจที่ผิด” โฆษณาระบุ

ทั้งนี้ ไชนาลโคต้องการเพิ่มกรรมสิทธิ์การถือครองหุ้นของบริษัทเหมืองแร่ ริโอ ทินโตเป็นเท่าตัวจาก 9% เป็น 18% โดยเสนอเงินสูงถึง 19,500 ล้านเหรียญสหรัฐ และคว้า 2 ที่นั่งในบอร์ดบริหารของบริษัทเหมืองแร่ออสซี่

อย่างไรก็ตามข้อเสนอดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในออสเตรเลีย ท่ามกลางกระแสโจมตีจีนว่าทำตัวเป็นเจ้าลัทธิล่าทรัพยากรธรรมชาติทั่วโลกเพื่อประกันความต้องการภายในประเทศ

โฆษณาต่อต้านไชนาลโค ซึ่งมีใบหน้าของนักการเมืองชาวออสซี่ 2 รายปรากฎอยู่ด้วย ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากเศรษฐีเอียน เมลโรส ที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเขาให้สัมภาษณ์ว่า “ไม่มีที่ไหนโจมตีผู้สนับสนุนประชาธิปไตยรุนแรงเท่ากับที่จัตุรัสเทียนอันเหมินอีกแล้ว”

เมลโรสยังประณามว่า “การขายสินทรัพย์ที่สำคัญให้แก่บริษัทวิสาหกิจรัฐจีนอย่าง ไชนาลโค เป็นความหายนะ หากมีความผิดพลาดอะไรเกิดขึ้น มันไม่ใช่แค่เรื่องของบริษัทๆ เดียวเท่านั้น แต่มันคือทั้งประเทศ”

ส่วนเรื่องความเคลื่อนไหวของดีลนี้ รัฐบาลออสเตรเลียจะฟันธงว่าข้อตกลงดังกล่าวจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้ และผู้ถือหุ้นของริโอ ทินโต ก็ยังต้องลงคะแนนโหวตครั้งสุดท้ายเพื่อผลักดันข้อตกลงต่อไป