เอเยนซี - อู๋ ป๋อสงประธานพรรคก๊กหมินตั๋ง(KMT) แห่งไต้หวันนำคณะผู้บริหารระดับสูงเข้าพบหู จิ่นเทาในฐานะเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อวันอังคาร(26 พ.ค.) ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่นสองฝ่ายให้คำมั่นจะเริ่มเจรจาความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างช่องแคบในเร็ววัน และว่าจะเลี่ยงความขัดแย้งในด้านต่างประเทศ
โดยแถลงการณ์ที่ระบุภายหลังการประชุมสองฝ่ายกล่าวว่า หู จิ่นเทาและอู๋ ป๋อสง มีมติเห็นชอบในวาระการส่งเสริมการค้าและพัฒนาความสัมพันธ์อย่างสันติระหว่างช่องแคบ ซึ่งกำหนดขึ้นโดยผู้นำพรรคทั้งสองฝ่าย เมื่อครั้งนายเหลียนจั้น อดีตหัวหน้าพรรคก๊กหมินตั๋งเยือนจีนครั้งแรกเมื่อปี 2548
นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องว่าจะดำเนินการสร้างความเชื่อมั่นต่อกัน ยึดถือภายใต้นโยบายจีนเดียวและต่อต้านการแยกตัวเป็นเอกราชของไต้หวัน
ด้านจีนแผ่นดินใหญ่ก็คาดหวังว่า จะสามารถเริ่มเปิดรอบการเจรจาความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองฝั่งช่องแคบ(ECPA) เพื่อบรรลุข้อตกลงภายในครึ่งปีหลังของปีนี้ ขณะเดียวกันก็ทั้งสองฝ่ายก็คาดหวังว่าจะเกิดความแลกเปลี่ยนในด้านวัฒนธรรมและการศึกษาอีกด้วย
โดยในวันเดียวกันนี้หู จิ่นเทาได้แสดงจุดยืนว่า จีนแผ่นดินใหญ่จะให้ความสำคัญทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย และยกระดับความมั่งคั่งให้กับประชาชน
ด้านผู้นำจากไต้หวันคาดหวังว่าความร่วมมือในกรอบการค้าและการแลกเปลี่ยนกับจีน จะส่งเสริมให้มีการกระจายสินค้าผ่านทางช่องแคบ และช่วยให้ไต้หวันพ้นวิกฤตเศรษฐกิจนี้ไปได้
ก่อนหน้านี้อิ่น ฉีหมิงรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของไต้หวันบอกว่าแผนความร่วมมือดังกล่าวจะทำให้ เศรษฐกิจภายในไต้หวันอาจจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.4 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะธุรกิจปิโตรเคมี, อุตสาหกรรมผลิตอุปกรณ์เครื่องจักร ที่จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์
อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า(DPP)ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านมองว่า มาตรการใกล้ชิดกับจีนแผ่นใหญ่จะกระทบต่ออธิปไตยและผลประโยชน์ของไต้หวัน
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสองแผ่นดินอบอุ่นขึ้นเมื่อเมื่อหม่า อิงจิ่วจากพรรคก๊กมินตั๋งขึ้นเป็นประธานาธิบดีเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งได้เคลื่อนไหวกระชับความสัมพันธ์กับจีน โดยต่อมาทั้งสองฝ่ายยังได้ลงนามเปิดความเชื่อมโยงโดยตรงทั้งสามทางถึงกันในช่วงต้นปีได้แก่ การติดต่อทางอากาศ การติดต่อขนส่งทางทะเล และการไปรษณีย์