เอเอฟพี – ทางการจีนเตรียมเรียกร้องให้บรรดาชาติร่ำรวยทั้งหลายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากระดับที่เคยปล่อยไว้เมื่อ 30 ปีที่แล้ว อีก 40 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2563 โดยจะยื่นข้อเรียกร้องนี้ในการเจรจาเรื่องภาวะโลกร้อน ที่จะมีขึ้นในกรุงโคเปนเฮเก้นปลายปีนี้
อย่างไรก็ตาม ในหนังสือแสดงจุดยืนที่จีนจะยื่นข้อเรียกร้องต่อบรรดาชาติที่ร่ำรวยฉบับนี้ ไม่มีการพูดถึงข้อผูกมัดทางกฎหมายใดๆ เพียงแต่ระบุไว้วา
“ประเทศพัฒนาแล้ว ควรรับประกันว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้อย่างน้อย 40 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2563 จากระดับที่เคยปล่อยออกมาเมื่อปี 2533”
ในหนังสือแสดงจุดยืนฉบับนี้ ยังระบุอีกว่า “ประเทศพัฒนาแล้ว ควรรับผิดชอบต่อการกระทำของตนที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสะสมมานาน จนทำให้ปัจจุบันนี้ ชาติพัฒนามีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหัวประชากรอยู่ในระดับสูง และเพื่อที่จะทำให้วิถีชีวิตที่ไม่ยั่งยืนของประชากรในประเทศเหล่านี้เกิดการเปลี่ยนแปลง จำต้องมีการลดระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก”
แม้ข้อเรียกร้องของจีนที่ให้ชาติพัฒนาแล้วลดการปล่อยก๊าซลงอีก 40 เปอร์เซ็นต์ จะปรากฎอยู่ในสื่อของรัฐก่อนหน้านี้ แต่หนังสือแสดงจุดยืนที่ถูกเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (21 พ.ค.) ถือเป็นการประกาศท่าทีอย่างเป็นทางการของรัฐบาลจีนที่มีต่อเรื่องนี้
การเจรจาเรื่องภาวะโลกร้อนที่จะจัดขึ้น ณ กรุงโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก ปลายปีนี้ มีขึ้นเพื่อให้ประเทศสมาชิกได้พูดคุยกันจนได้ข้อสรุป เกี่ยวกับข้อตกลงเรื่องการเปลี่ยนสภาพอากาศฉบับใหม่ ที่จะนำมาใช้แทนพิธีสารเกียวโตซึ่งจะหมดวาระใช้งานในปี 2555
ก่อนหน้านี้ กลุ่มสหภาพยุโรปได้ตั้งเป้าว่า จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ 20 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2563 และหลังจากนั้นอาจเพิ่มเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ หากประเทศอื่นยอมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเช่นเดียวกัน
แม้สื่อของรัฐบาลจีนเคยระบุไว้ว่า จีนเตรียมให้พันธะสัญญาว่าจะปรับปรุงประสิทธิภาพด้านพลังงาน แต่ในหนังสือแสดงจุดยืนฉบับนี้ ทางการจีนก็ไม่ได้ระบุเป้าหมายใดๆ หากแต่เรียกร้องให้ชาติพัฒนาแล้วสนับสนุนด้านการเงินแก่ประเทศกำลังพัฒนา เพื่อสร้างเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาด
ในฐานะประเทศกำลังพัฒนา จีนไม่ยอมให้สัญญาว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ทั้งภาวะโลกร้อน ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงด้านอื่นๆ และในหนังสือแสดงจุดยืนฉบับนี้ ระบุเพียงว่า
“จีนตระหนักดีถึงอันตรายของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และความเร่งด่วนของสภาพปัญหา ด้วยความสำนึกรับผิดชอบต่อการพัฒนาของมวลมนุษยชาติในระยะยาว ดังนั้น จีนจึงขอสัญญาว่าจะพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน แม้จีนกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตด้านการเงิน แต่ก็ยังมุ่งมั่นที่จะพยายามแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ”