หลายปีหลังมานี้มีนักแปลนวนิยายจีนรุ่นใหม่ ชาวไทยผุดขึ้นมาบนบรรณพิภพจำนวนไม่น้อย ...
ในจำนวนนักแปลนวนิยายจีนรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวไทยเชื้อสายจีนวัยหนุ่มที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ปรมาจารย์นักแปลนิยายจีนรุ่นเก่าๆ ไม่ว่าจะเป็น ว.ณ.เมืองลุง น.นพรัตน์ จำลอง พิศนาคะ ที่บ้างลาจาก บ้างเริ่มจะโรยรา
สารภาพ กันอย่างตรงไปตรงมา ส่วนตัว ผมไม่ค่อยจะได้อ่านนิยายกำลังภายในจีนที่ผ่านฝีปากกาการแปลของนักแปลรุ่นใหม่มากเท่าใดนัก หนึ่ง เพราะกริ่งเกรงว่าเนื้อเรื่องอาจจะไม่ถูกรสนิยม และ สอง เพราะกลัวว่าฝีมือการแปลจะไม่ได้อรรถรสเหมือนกับที่เคยอ่านมาก่อนๆ
ทว่า เมื่อมีโอกาสได้พลิกอ่านนวนิยายเรื่อง “บัลลังก์เลือด แผ่นดินเดือด” จากฝีปากกาของ จาง เป่ายุ่ย และการปรุงรสภาษาของ ยุทธชัย อนันตศักรานนท์แล้ว กลับทำให้อคติของผมที่เคยมีต่อนักแปลรุ่นใหม่ๆ นั้นปลาสนาการไปสิ้น
บัลลังก์เลือด แผ่นดินเดือด ภาค พเนจรสู่แดนประจิม เป็นเรื่องราวในยุคปลายของราชวงศ์ชิง (แมนจู) ซึ่งแผ่นดินจีนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ จากทั้ง ความเหลวแหลกของการบริหารราชการแผ่นดินภายใต้อุ้งมือของสตรีที่ชื่อว่า ซูสีไทเฮา ซึ่งเชิดฮ่องเต้เอาไว้อีกที หรือที่รู้จักกันในนาม “ว่าราชการหลังม่าน (垂帘听政)” นั่นแล ประกอบกับ การรุกรานเข้ามาแก่งแย่งผลประโยชน์กันของชาวต่างชาติที่มองว่าจีนเป็นเค้กชิ้นใหญ่ที่สามารถแบ่งสันปันส่วนกันได้
เรื่องราวในนิยายเล่มนี้เริ่มขึ้นด้วยเหตุการณ์ภายหลังจากที่กบฏนักมวย (Boxer Rebellion; 义和团) ซึ่งได้รับการสนับสนุนในทางลับจากราชสำนักชิง ได้พ่ายแพ้ให้แก่กองทัพพันธมิตรทั้ง 8 ชาติ ซึ่งรุกเข้ามายังกรุงปักกิ่ง นครหลวง เพื่อปกป้องและแก้แค้นให้กับนักการทูต รวมถึงมิชชันนารีของตัวเองที่ถูกคุกคามและเข่นฆ่าไปเป็นจำนวนมาก
ในสภาวะกรุงแตก พระนางซูสีไทเฮาได้นำองค์ฮ่องเต้กวงซวี่ พร้อมพระมเหสีและสนมอีกจำนวนหนึ่งหนีตายไปทางทิศตะวันตก มุ่งหน้าไปยังเมืองซีอานที่อยู่ห่างไกลออกไปหลายพันลี้
การพเนจรสู่แดนประจิมครั้งนี้ของคณะของพระนางซูสีไทเฮาครั้งนี้นับว่าเป็นการเผชิญความยากลำบาก ความรันทด และเสี่ยงภัยครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของพระนางและราชวงศ์แมนจู เพราะศัตรูของพระนางมิได้มีเพียง กองทัพต่างชาติเท่านั้นที่หมายแก้แค้น แต่ยังรวมถึงจอมยุทธและชาวจีนทั่วแผ่นดินที่สะสมความคั่งแค้นต่อความฉ้อฉลของราชสำนักภายใต้การปกครองพระนางที่กินเวลามายาวนาน จนในที่สุดทำให้ประเทศต้องแตกเป็นเสี่ยงๆ ฉุดให้ประเทศจีนที่เคยรุ่งเรืองสูงสุดในสมัยฮ่องเต้เฉียนหลง ต้องตกต่ำถึงขีดสุด ทั้งประเทศและประชาชนถูกชาวต่างชาติดูหมิ่น หลู่เกียรติ ทุกผู้คน
ด้วยเหตุนี้หนทางไปสู่เมืองซีอานของคณะของพระนางจึงเต็มไปด้วยอันตรายนานัปการ ...
แม้ว่าชื่อ จาง เป่ายุ่ย จะไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักอ่านนิยายกำลังภายในชาวไทยเท่าใดนัก แต่เมื่อได้สัมผัสกับเนื้อหาแล้ว กล่าวได้ว่าฝีมือของนักเขียนผู้นี้ไม่ธรรมดา อีกทั้งยังไม่ได้เป็นการลอกเลียนแบบ “สไตล์” หรือ “โครงเรื่อง” ของนักเขียนชั้นปรมาจารย์คนใดๆ ด้วย ส่วนคุณยุทธชัย ผู้แปลนั้นนอกจากจะเป็นหนุ่มนักแปลข่าว-เขียนบทความจีนชั้นยอดแล้ว ยังผ่านประสบการณ์การแปลบทละครโทรทัศน์จีนมาอย่างโชกโชนทั้งละครยุคเก่าและยุคใหม่ เช่น มังกรหยก จี้กง โปเยโปโลเย เปาบุ้นจิ้น เทพบุตรนักบาส ฯลฯ
สำหรับ “บัลลังก์เลือด แผ่นดินเดือด” เป็นนิยายจีนขนาดกลาง แบ่งเป็น 2 ภาค ภาคละ 2 เล่ม รวมทั้งหมด 4 เล่ม โดยภาคต้นคือ พเนจรสู่แดนประจิม และ ภาคจบ บูรพานองเลือด
เชื่อว่าจะเป็นทางเลือกใหม่ให้ผู้ชื่นชอบและกำลังเสาะหานวนิยายกำลังภายในจีนเรื่องใหม่ๆ มาเพิ่มอรรถรสให้ชีวิตได้อย่างแน่นอน
รายละเอียดหนังสือ
ชื่อหนังสือ บัลลังก์เลือด แผ่นดินเดือด ภาคต้น : พเนจรสู่แดนประจิม
สำนักพิมพ์ ชุณหวัตร
ผู้เขียน จาง เป่ายุ่ย
ผู้แปล ยุทธชัย อนันตศักรานนท์
ISBN 978-974-642-873-6
พิมพ์ครั้งแรก เดือนกุมภาพันธ์ 2552
ราคา 150 บาท (จัดจำหน่ายโดย บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น 0-2739-8000 โทรสาร 0-2739-8356-9 www.se-ed.com)
หมายเหตุ : หน่วยงาน/บุคคลใดที่ต้องการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับจีนในรูปแบบหนังสือ สามารถส่งหนังสือมาได้ที่ “โต๊ะจีน หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน 102/1 ถ.พระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200” กรุณาวงเล็บด้วยว่า “(คอลัมน์หิ้งหนังสือ)”