เอเชี่ยนวอลสตรีทเจอร์นัล – แหล่งข่าววงในแย้ม รัฐบาลถกเครียดเตรียมเข็นกฎระเบียบใหม่คุมเข้มธนาคารปล่อยสินเชื่อ หลังปล่อยกู้มันส์มือส่งยอดตัวเลขเงินกู้ใหม่ไตรมาสแรกของปีนี้ทะลุ 4.58 ล้านล้านหยวน เทียบเท่ากับตัวเลขปี 2551 ตลอดทั้งปี พร้อมหวั่นวิตกเงินไม่ถึงมือกลุ่มธุรกิจเป้าหมาย แต่เบนเข็มลงตลาดสินทรัพย์หรือเงินฝากธนาคารแทน
เจ้าหน้าที่อาวุโสรายหนึ่งจากองค์กรส่วนท้องถิ่นของคณะกรรมการกำกับกิจการธนาคารแห่งประเทศจีนเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการฯ กำลังพิจารณากฎระเบียบใหม่ควบคุมการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร เพื่อรับประกันว่าเงินกู้จะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างแท้จริง เช่น โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล มากกว่าจะเบี่ยงเบนไหลเข้าตลาดสินทรัพย์หรือฝากแบงก์ ซึ่งทางโฆษกของคณะกรรมการฯ ก็ได้ยืนยันเมื่อวันจันทร์ (20 เม.ย.) ว่า ได้มีการส่งกฎระเบียบเป็นจดหมายเวียนเพื่อขอความเห็น
อย่างไรก็ตาม นโยบายการบริหารจัดการการไหลของสินเชื่อที่รัฐบาลปักกิ่งจะคลอดออกมาในอนาคตนั้น จะส่งผลต่อทิศทางการเติบโตของประเทศอย่างเลี่ยงไม่ได้
การปล่อยสินเชื่ออย่างถล่มทลายของจีนเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งสวนทางกับประเทศตะวันตกอื่นๆ มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ทั้งยังรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนไว้ได้ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจอื่นๆ ของโลกถดถอย
แม้ว่าการลดปริมาณการปล่อยเงินกู้ลงอย่างฮวบฮาบ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงให้การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต้องตกราง ซึ่งทางการไม่มีแผนจะทำเช่นนั้น แต่รัฐบาลก็ไม่อาจผลักดันนโยบายปล่อยสินเชื่อมากไปกว่านี้ได้ โดยตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้วธนาคารกลางแห่งประเทศจีนได้หยุดลดอัตราดอกเบี้ยลง นอกจากนี้รัฐบาลยังได้แสดงความกังวลว่า การปล่อยสินเชื่อมากเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงทางการเงินและไม่ได้ช่วยเหลือธุรกิจที่จำเป็นต้องใช้เงินโดยตรง
หลิว หมิงคัง นายใหญ่คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการธนาคารกล่าวระหว่างการประชุมประจำไตรมาสของหน่วยงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า “ธนาคารต่างๆ ควรตระหนักว่า การจัดการกับผลกระทบจากวิกฤตการเงินเป็นภารกิจระยะยาว และควรให้ความสำคัญต่อความเสี่ยงที่สะสมจากการล้นทะลักของสินเชื่อ”
หลิวยังกล่าวว่า เขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับการที่ธนาคารยังไม่มีระบบตรวจสอบผู้กู้อย่างเหมาะสม และอนุมัติสินเชื่อมากเกินไปให้แก่ลูกค้าที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย
ทั้งนี้ ความกังวลของรัฐบาลก็สืบเนื่องมาจากขนาดและโครงสร้างที่ผิดปกติของการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์เมื่อช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ โดยธนาคารจีนได้ปล่อยสินเชื่อล็อตใหม่เป็นเงินสูงถึง 4.58 ล้านล้านหยวน (640,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งเป็นปริมาณที่มากเกือบเท่ากับสินเชื่อใหม่ในปี 2551 และเท่ากับ 70% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศประจำไตรมาส
และในจำนวนหนี้ก้อนใหม่นี้ มีหนี้ใหม่ที่ผิดปกติคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 กล่าวคือมีการปล่อยกู้เงิน 1.48 ล้านล้านหยวนในรูปของตั๋วแลกเงินระยะสั้น ซึ่งปกติจะใช้กับภาคธุรกิจที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนอย่างรวดเร็ว ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนเผยว่า พวกเขามีหลักฐานว่าบริษัทหลายรายได้กู้เงินไปเพื่อฝากเงินกินดอกเบี้ย และบางส่วนนำเงินไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ด้วย
ซึ่งกฎระเบียบใหม่ที่ทางคณะกรรมการกำกับกิจการธนาคารเสนอ ก็เพื่อป้องกันปัญหาข้างต้น อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่อาวุโสของคณะกรรมการฯ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ตั้งใจที่จะออกกฎเพื่อจำกัดโควตาการปล่อยสินเชื่อใหม่ของธนาคารแต่อย่างใด