เอเจนซี – ศาลฮ่องกงยกฟ้อง “ริชาร์ด ลี” หลังถูก กลต.กล่าวหาว่าทำผิดกฎหมายกรณีขายหุ้น PCCW ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม ระบุ หลักฐานที่จะเอาผิดมีไม่เพียงพอ ด้าน SFC หวังศาลอุทธรณ์ชี้ชัด การแจกหุ้นให้เอเย่นต์ผิดกฎหมายหรือไม่
การตัดสินคดีดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันจันทร์ ( 6 เม.ย.) ที่ผ่านมา โดยผู้พิพากษาซูซาน กวน ได้ระบุไว้ในคำพิพากษาที่มีเป็นลายลักษณ์อักษรว่า คณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (SFC) ไม่สามารถแสดงข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่าการลงมติของผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีความไม่เหมาะสมอย่างไร และยังว่า การแจกจ่ายหุ้นให้แก่นักลงทุนไม่ถือว่าผิดกฎหมายของฮ่องกงแต่อย่างใด
ในการไต่สวนคดี SFC ให้การต่อศาลว่า แผนการขายหุ้นบริษัท แปซิฟิค เซ็นจูรี ไซเบอร์เวิร์กส์ (PCCW) เพิ่งได้รับอนุมัติจากการลงมติของผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากบริษัทประกันภัยฟอร์ทิส (Fortis Asia) ซึ่งเป็นเอเย่นต์ได้รับแจกหุ้นเนื่องจากสนับสนุนการแปรรูปบริษัท
ขณะที่ผู้เฝ้าสังเกตการณ์ให้การว่า แผนการแตกหุ้นบริษัท PCCW ได้รับการวางแผนโดยนาย ฟรานซิส หยวน อดีตรองประธาน PCCW และอดีตผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันเป็นรองประธานบริษัท PCRD ที่นายลีกำลังเจรจาขายหุ้นอยู่ และนายหลิน เสี้ยวฮวา ผู้จัดการอาวุโสของ Fortis ที่เคยเป็นหน่วยงานหนึ่งในบริษัท PCRD
คำให้การยังระบุว่า หลังจากนายหยวนและนายหลิน โทรศัพท์ติดต่อกันหลายครั้งในช่วงเดือนมกราคม นายหลินก็ได้ซื้อหุ้นของ PCCW จำนวน 5 แสนหุ้น และแจกจ่ายไปให้แก่ลูกจ้างในบริษัท Fortis โดยอ้างว่าให้เป็นโบนัส
คำพิพากษาดังกล่าวของศาลฮ่องกง ทำให้ผู้ถือหุ้นบางรายไม่พอใจ และได้ตะโกนว่าไม่มีความยุติธรรม จนทำให้ผู้รับฟังคดีรายนั้นถูกสั่งให้ออกจากศาลไป หลังจากนี้คดีดังกล่าวจะถูกส่งไปยังศาลอุทธรณ์ของฮ่องกง และการซื้อขายหุ้นของ PCCW จะถูกระงับไปจนถึงวันที่ 16 เม.ย.นี้ เพราะเป็นช่วงที่ศาลอุทธรณ์พิจารณาข้อกล่าวหาของ SFC
“การตัดสินคดีนี้ จะทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการปกป้องนักลงทุนเสียงข้างน้อยในฮ่องกง” นั่นเป็นความเห็นจาก นายเจมี่ อัลเลน เลขาธิการสมาคมธรรมาภิบาลบริษัทแห่งเอเชีย และหนึ่งในกรรมการตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกง ระบุ
ขณะที่ นายอเล็กซ์ อารีน่า กรรมการอำนวยการบริษัท PCCW กล่าวว่า คำตัดสินที่ให้บริษัทดำเนินการซื้อขายหุ้นต่อไปได้ ถือเป็น “คำตัดสินที่ถูกต้อง” ทั้งนี้ PCCW และบริษัทคู่เจรจาซื้อขายหุ้นต่างก็เห็นว่า SFC ขาดหลักฐานที่ชี้ให้เห็นการกระทำผิดของบริษัท
ทั้งนี้ กฎหมายของฮ่องกงระบุว่า การแปรรูปบริษัทนั้นจะต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นรายย่อยเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นายริชาร์ด ลี มีความพยายามที่จะขายหุ้นบริษัท PCCW และ ไชน่า เน็ตคอม มาแล้วถึง 3 ครั้ง โดยมีรายงานระบุว่า ความพยายามครั้งแรกถูกขัดขวางจากรัฐบาลจีน ส่วนครั้งที่สองถูกขัดขวางโดยผู้ถือหุ้นเสียงส่วนน้อย
คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจาก SFC ได้กล่าวหาว่า กลุ่มบริษัทที่เจรจาซื้อขายหุ้นกับ นายริชาร์ด ลี พยายามปรับเปลี่ยนการลงมติของผู้ถือหุ้น โดยแนะให้ผู้บริหารของฟอร์ทิส กระจายหุ้นของ PCCW ไปให้แก่เอเย่นต์จำนวน 500 คนที่จะได้กำไรหากการซื้อขายหุ้นดำเนินการสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม บริษัทฟอร์ทิส ได้ออกมาระบุเมื่อวันจันทร์ว่า ทางบริษัทไม่รู้เรื่องการกระจายหุ้นไปให้แก่เอเยนต์แต่อย่างใด เพราะเอเยนต์เหล่านั้นไม่ใช่ลูกจ้างของบริษัท และยังว่าจะดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้เป็นการภายใน
ทั้งนี้ ในคำพิพากษายังได้ระบุว่า ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่ทำให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มบริษัทที่เจรจาซื้อขายหุ้นกับผู้จัดการของบริษัทฟอร์ทิส นอกจากนี้ กฎหมายของฮ่องกงก็ไม่ได้ห้ามการกระจายหุ้นไปให้แก่นักลงทุน
เรื่องนี้ มาร์ติน วีทลีย์ ผู้บริหารระดับสูงของ SFC กล่าวว่า คงต้องปล่อยให้ศาลอุทธรณ์ตัดสินว่าการกระจายหุ้นเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายหรือไม่ และคงต้องพูดให้กระจ่างว่าเรื่องนี้ทำได้หรือไม่
สำหรับราคาหุ้นของ PCCW นั้นเคยอยู่ในระดับ 130 เหรียญฮ่องกงต่อหุ้นเมื่อปี 2543 ในช่วงที่ตาดหุ้นกำลังบูม แต่ปีนี้ราคาตกมาอยู่ที่ 4 เหรียญฮ่องกงต่อหุ้น สำหรับผู้ที่ถือหุ้นของ PCCW และไชน่า เน็ตคอม นายริชาร์ด ลี เสนอราคาซื้อคืนอยู่ที่ 4.5 เหรียญฮ่องกงต่อหุ้น
การสอบสวนของกลต.ฮ่องกงในเรื่องการขายหุ้น PCCW นั้น เริ่มขึ้นเมื่อ นายเดวิด เว็บบ์ นักเคลื่อนไหวเพื่อผู้ถือหุ้นในท้องถิ่นแฉว่า ได้มีการล้อบบี้ผู้ถือหุ้นบางส่วนให้ยกมือสนับสนุนการขายหุ้นบริษัทมูลค่า 2,100 ล้านดอลลาร์ ตามแผนแปรรูปบริษัทสู่มือเอกชนโดยมีการแจกหุ้นให้เป็นรางวัล
รายงานข่าวยังระบุว่า หลังจากผู้ถือหุ้นประชุมกันอยู่นาน 7 ชั่วโมง อีกเพียง 1 ชั่วโมงต่อมาจึงมีการลงมติ โดยผู้ถือหุ้นร้อยละ 82 เปิดไฟเขียวให้แปรรูปบริษัท แต่ผู้ถือหุ้นอีกจำนวนหนึ่งคัดค้าน และขอให้เลื่อนการลงมติออกไป ทว่าไม่เป็นผล