เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล – ผู้กำกับตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเตรียมสอบเงื่อนงำพิรุธการลงมติผู้ถือหุ้นของ PCCW บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของฮ่องกง หลังจากเห็นชอบฉลุยให้ขายหุ้นบริษัท มูลค่า 2,100 ล้านดอลลาร์ ตามแผนแปรรูปบริษัทสู่มือเอกชน
การลงดาบครั้งนี้มีขึ้น หลังจากสื่อมวลชนและนักเคลื่อนไหวเพื่อผู้ถือหุ้นในท้องถิ่นแฉว่า ได้มีการล้อบบี้ผู้ถือหุ้นบางส่วน ยกมือสนับสนุน โดยแจกหุ้นให้เป็นรางวัล โดยคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์และตลาดค้าล่วงหน้าของฮ่องกงแถลงวันพฤหัสบดี (5 ก.พ.) ว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้ายึดบันทึกการลงมติในการประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (4 ก.พ.) เพื่อตรวจสอบ และจะดำเนินการสอบสวนต่อไป
รายงานข่าวระบุว่า หลังจากผู้ถือหุ้นประชุมกันอยู่นาน 7 ชั่วโมง อีกเพียง1 ชั่วโมงต่อมา จึงมีการลงมติ โดยผู้ถือหุ้นร้อยละ 82 เปิดไฟเขียวให้แปรรูปบริษัท แต่ผู้ถือหุ้นอีกจำนวนหนึ่งคัดค้าน และขอให้เลื่อนการลงมติออกไป ทว่าไม่เป็นผล
ตามสัญญาฉบับดังกล่าว ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด 2 รายในPCCW คือนายริชาร์ด ลี ประธาน PCCW บุตรชายอภิมหาเศรษฐีลีกาชิงแห่งฮ่องกง และไชน่า เน็ตคอม บริษัทโทรคมนาคมของรัฐบาลจีน ได้เสนอซื้อหุ้นอีกร้อยละ 52 จากผู้ถือหุ้นรายย่อยในราคาหุ้นละ 4.50 ดอลลาร์ฮ่องกง (58 เซนต์สหรัฐฯ ) ซึ่งสูงกว่าราคาก่อนหน้าที่กลุ่มของนายลีแสดงความสนใจเข้าซื้อครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคมถึงร้อยละ 55 อย่างไรก็ตาม ยังมีราคาต่ำกว่าช่วงการซื้อขายหุ้นตัวนี้ที่ราคาหุ้นละ 5 ดอลลาร์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว จะทำให้กลุ่มของนายลีถือหุ้นถึงราว 2 ใน 3 ของPCCW ขณะที่ ไชน่า ยูนิคอม บริษัทโทรคมนาคมของรัฐบาลจีน ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการของไชน่า เน็ตคอม จะเป็นผู้ถือหุ้นส่วนที่เหลือ
อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นรายย่อยมองว่าข้อเสนอดังกล่าวเป็นการให้ราคาที่ต่ำเกินไป โดยผู้ถือหุ้นจำนวนหนึ่งออกมาคัดค้าน หลังจากสื่อมวลชนฮ่องกง และเดวิด เว็บบ์ นักเคลื่อนไหวเพื่อพิทักษ์สิทธิ์ของผู้ถือหุ้นระบุเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ผู้ถือหุ้นบางรายได้รับโอนหุ้นของPCCW ถึง 1,000 หุ้น เพื่อแลกเปลี่ยนกับการยกมือสนับสนุน และภายใต้เงื่อนไขในสัญญาฉบับนี้ หุ้นจำนวนดังกล่าวจะมีมูลค่าทั้งสิ้น 4,500 ดอลลาร์ฮ่องกง
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่นำออกมาแฉไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากตามกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ห้ามเปิดเผยข้อมูลการจดทะเบียนหุ้นต่อสาธารณชน ก่อนการประชุมผู้ถือหุ้น 3 วัน
ขณะนี้ สัญญาฉบับดังกล่าวจะยื่นต่อศาลสูงของฮ่องกง เพื่อให้การเห็นชอบตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ทนายความระบุว่า คณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ และผู้ถือหุ้นรายย่อยสามารถยื่นคัดค้านการลงมติได้
ผู้ถือหุ้นในที่ประชุมรายหนึ่งยืนยันว่าจะเดินหน้าคัดค้าน เพื่อรักษาสิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง โดยระบุว่า ตนเข้าซื้อหุ้นPCCW ในปี 2000 ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาหุ้นพุ่งสูงสุด โดยในการซื้อขายบางครั้ง มีราคาเหนือกว่า 100 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อหุ้น
การเข้าสอบสวนการลงมติผู้ถือหุ้นของคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์นับเป็นอุปสรรคด่านล่าสุดสำหรับนายลี วัย 41 ปีในการกำหนดชะตากรรมของPCCW หลังจากเคยพยายามขายกิจการบริษัททั้งหมด หรือบางส่วนมาแล้วถึง 3 ครั้ง ก่อนจะมาถึงแผนการล่าสุดนี้
การลงดาบครั้งนี้มีขึ้น หลังจากสื่อมวลชนและนักเคลื่อนไหวเพื่อผู้ถือหุ้นในท้องถิ่นแฉว่า ได้มีการล้อบบี้ผู้ถือหุ้นบางส่วน ยกมือสนับสนุน โดยแจกหุ้นให้เป็นรางวัล โดยคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์และตลาดค้าล่วงหน้าของฮ่องกงแถลงวันพฤหัสบดี (5 ก.พ.) ว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้ายึดบันทึกการลงมติในการประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (4 ก.พ.) เพื่อตรวจสอบ และจะดำเนินการสอบสวนต่อไป
รายงานข่าวระบุว่า หลังจากผู้ถือหุ้นประชุมกันอยู่นาน 7 ชั่วโมง อีกเพียง1 ชั่วโมงต่อมา จึงมีการลงมติ โดยผู้ถือหุ้นร้อยละ 82 เปิดไฟเขียวให้แปรรูปบริษัท แต่ผู้ถือหุ้นอีกจำนวนหนึ่งคัดค้าน และขอให้เลื่อนการลงมติออกไป ทว่าไม่เป็นผล
ตามสัญญาฉบับดังกล่าว ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด 2 รายในPCCW คือนายริชาร์ด ลี ประธาน PCCW บุตรชายอภิมหาเศรษฐีลีกาชิงแห่งฮ่องกง และไชน่า เน็ตคอม บริษัทโทรคมนาคมของรัฐบาลจีน ได้เสนอซื้อหุ้นอีกร้อยละ 52 จากผู้ถือหุ้นรายย่อยในราคาหุ้นละ 4.50 ดอลลาร์ฮ่องกง (58 เซนต์สหรัฐฯ ) ซึ่งสูงกว่าราคาก่อนหน้าที่กลุ่มของนายลีแสดงความสนใจเข้าซื้อครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคมถึงร้อยละ 55 อย่างไรก็ตาม ยังมีราคาต่ำกว่าช่วงการซื้อขายหุ้นตัวนี้ที่ราคาหุ้นละ 5 ดอลลาร์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว จะทำให้กลุ่มของนายลีถือหุ้นถึงราว 2 ใน 3 ของPCCW ขณะที่ ไชน่า ยูนิคอม บริษัทโทรคมนาคมของรัฐบาลจีน ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการของไชน่า เน็ตคอม จะเป็นผู้ถือหุ้นส่วนที่เหลือ
อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นรายย่อยมองว่าข้อเสนอดังกล่าวเป็นการให้ราคาที่ต่ำเกินไป โดยผู้ถือหุ้นจำนวนหนึ่งออกมาคัดค้าน หลังจากสื่อมวลชนฮ่องกง และเดวิด เว็บบ์ นักเคลื่อนไหวเพื่อพิทักษ์สิทธิ์ของผู้ถือหุ้นระบุเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ผู้ถือหุ้นบางรายได้รับโอนหุ้นของPCCW ถึง 1,000 หุ้น เพื่อแลกเปลี่ยนกับการยกมือสนับสนุน และภายใต้เงื่อนไขในสัญญาฉบับนี้ หุ้นจำนวนดังกล่าวจะมีมูลค่าทั้งสิ้น 4,500 ดอลลาร์ฮ่องกง
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่นำออกมาแฉไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากตามกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ห้ามเปิดเผยข้อมูลการจดทะเบียนหุ้นต่อสาธารณชน ก่อนการประชุมผู้ถือหุ้น 3 วัน
ขณะนี้ สัญญาฉบับดังกล่าวจะยื่นต่อศาลสูงของฮ่องกง เพื่อให้การเห็นชอบตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ทนายความระบุว่า คณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ และผู้ถือหุ้นรายย่อยสามารถยื่นคัดค้านการลงมติได้
ผู้ถือหุ้นในที่ประชุมรายหนึ่งยืนยันว่าจะเดินหน้าคัดค้าน เพื่อรักษาสิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง โดยระบุว่า ตนเข้าซื้อหุ้นPCCW ในปี 2000 ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาหุ้นพุ่งสูงสุด โดยในการซื้อขายบางครั้ง มีราคาเหนือกว่า 100 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อหุ้น
การเข้าสอบสวนการลงมติผู้ถือหุ้นของคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์นับเป็นอุปสรรคด่านล่าสุดสำหรับนายลี วัย 41 ปีในการกำหนดชะตากรรมของPCCW หลังจากเคยพยายามขายกิจการบริษัททั้งหมด หรือบางส่วนมาแล้วถึง 3 ครั้ง ก่อนจะมาถึงแผนการล่าสุดนี้