เอเชี่ยนวอลสตรีท - นักธุรกิจจากบรรดากองทุนเพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่สุดของโลกเผย ตลาดบ้านที่ดินจีนยังคงเสี่ยงและไม่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ทั้งที่เพิ่งมีสัญญาณสถานการณ์ดีขึ้น
กลุ่มผู้บริหารต่างชาติ ซึ่งเข้าร่วมการประชุมการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เรียล เอสเต็ท อินเวสต์เม้นท์ เวิลด์ ไชน่า เมื่อสัปดาห์ก่อนที่เซี่ยงไฮ้เผยว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจีนตอนนี้ พวกเขาหวังว่าราคาจะลดลงกว่านี้เพื่อสะท้อนถึงโอกาสลงทุนใหม่
ภาคอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดยังเสี่ยงเกินไป ขาดสภาพคล่อง และยังพัฒนาไปได้ไม่ดีพอที่จะคาดหวังเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติในเวลานี้ ขณะที่ตลาดเกิดใหม่อื่นๆ มีความโปร่งใสมากกว่า กลุ่มผู้บริหารกล่าว
ริชาร์ด ไพรส์ ซีอีโอของกองทุนบริหารจัดการการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ING กล่าวว่า “นักลงทุนต่างชาติกำลังวางเงินลงทุนในตลาดบ้านตัวเอง” โดยเขากล่าวว่า ความยุ่งยากซับซ้อนในการทำสัญญาอสังหาริมทรัพย์ในจีน “ทำให้นักลงทุนระงับ” การลงทุนในตอนนี้
ทั้งนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนพยายามลดการเก็งกำไรราคาอพาร์ทเม้นท์ที่อยู่อาศัย โดยการสร้างกำแพงอุปสรรคตัวใหม่สำหรับนักลงทุนต่างชาติ
แต่ช่วงนี้เงินจากต่างประเทศเริ่มลดน้อยถอยลง ดังนั้นรัฐบาลปักกิ่งจึงได้ผ่อนปรนมาตรการดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นก็ให้คำมั่นในระหว่างการประชุมว่า นักลงทุนต่างชาติจะสามารถเข้ามาลงทุนในเมืองของพวกเขาได้ง่ายๆ พร้อมย้ำว่ามีสัญญาณบ่งชี้ว่า ราคามีเสถียรภาพ
ราคาอพาร์ตเม้นท์มีเสถียรภาพ และก็มีการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์หลายฉบับ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติเผยว่า ในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ มีที่อยู่อาศัยรวม 51 ล้านตารางเมตรถูกขาย อย่างไรก็ตามปริมาณดังกล่าวก็ลดลงจากช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ราคาก็สูงขึ้น 11%
ทั้งนี้การประชุมอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้มีผู้เข้าร่วมเพียง 280 คนเท่านั้น ลดลงจากปีที่แล้วซึ่งทำสถิติสูงถึง 400 คน อย่างไรก็ตามจากการสำรวจพบว่า ผู้เข้าประชุมส่วนใหญ่คาดว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนน่าจะ “ฟื้นตัวดีขึ้น” ในปี 2553 แต่ไม่ใช่ปีนี้
ราคาที่ตกฮวบในตลาดประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงไม่เข้ามาลงทุนในจีน สตีเฟน ทริมเบลย์ รองประธานของบริษัทซีดีพี เรียล เอสเต็ทกล่าว
โดยทริมเบลย์ ซึ่งบริษัทมอนทริอัลของเขาบริหารจัดการสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์มูลค่าถึง 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐเผยว่า ตลาดจีนจะดูดเงินจากนักลงทุนได้ง่ายขึ้น ต่อเมื่อรัฐบาลลดโอกาสความวุ่นวายทางการเมือง และอุปสรรคใหญ่อื่นๆ ซึ่งจีนมีมากกว่าประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ
ผู้เข้าร่วมการประชุมจำนวนหนึ่งเผยว่า ราคายังไม่ลดมากพอที่จะสะท้อนการผลิตล้นเกินของตลาด จากรายงานจากคอลเลียร์ อินเตอรเนชั่นแนลฉบับเดือนนี้ระบุ ในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจว แต่ละแห่งมีพื้นที่สำนักงานที่ยังอยู่ในระหว่างก่อสร้างประมาณ 930,000 ตารางเมตร อัตราว่างของเซี่ยงไฮ้พุ่ง 10.2% เมื่อปลายปี 2551 จาก 4.7% เมื่อช่วงกลางปี
