อุดรธานี - รวบ 2 หนุ่มใหญ่ขณะขนพระพุทธรูปส่งขาย สารภาพตกงานจึงตระเวนลักพระพุทธรูปในเขต อ. อ.เมือง บ้านผือ อ.บ้านดุง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย กระทั่งมาถูกตรวจค้นจับกุมดังกล่าว
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. พ.ต.อ.ประมวล ปลัดขวา ผกก.สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ทราบว่ามีแก๊งคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักพระพุทธรูปภายในเขตพื้นที่ จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.นิทัศน์ ทนะขว้าง สว.สป. นำกำลังออกสืบสวน และตรวจสอบในพื้นที่รับผิดชอบ ถึง กม.ที่ 8 ถนนบ้านผือ – ท่าบ่อ บ้านดงหวาย ต.หายโศก อ.บ้านผือ พบชาย 2 คน ขับรถยนต์ปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บฉ 8073 หนองคาย มุ่งหน้าไป อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณคล้ายคนร้ายตามที่ได้รับแจ้ง
ตำรวจจึงได้เรียกให้หยุดรถ และแสดงตัวขอตรวจค้น จากการตรวจค้นพบพระพุทธรูปพระพุทธชินราช เนื้อทองเหลือง หน้าตักกว้าง 4 นิ้ว และพระพุทธรูปปรางค์มารวิชัย เนื้อทองเหลือง หน้าตักกว้าง 12 นิ้ว ซุกซ่อนอยู่เบาะหลังด้านหลัง สอบถามชายทั้งสอง ได้สารภาพว่า ได้ลักพระพุทธรูปพระพุทธชินราชมาจากวัดป่าสุขไพรวัลย์ ต.หนองแวง อ.บ้านผือ
โดยพระเวียงไชย ยติโก เจ้าอาวาสวัด วัดป่าสุขไพรวัลย์ ต.หนองแวง อ.บ้านผือ ได้มาแจ้งหายเอาไว้เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา และลักพระพุทธรูปปรางค์มารวิชัย มาจากวัดบ้านดงหวาย ต.หายโศก อ.บ้านผือ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาทำการสอบสวน
ทราบชื่อว่านายสมพาน โกศิลา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154 หมู่ 5 และนายอุดม ภูติพันธ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 5 ทั้งสองคนอยู่ ต.เมืองหมี อ.เมือง จ.หนองคาย ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง แต่ระยะหลังเศรษฐกิจไม่ดี จึงได้ชักชวนกันตระเวนลักพระพุทธรูปไปขาย โดยทำทีไปติดต่องานสร้างกำแพงรั้ววัด โบสถ์ ศาลการเปรียญ
ถ้าหากไม่มีงานก่อสร้าง ก็จะทำทีนำเครื่องสังฆทานไปถวายเจ้าอาวาส เพื่อเข้าไปดูลาดเลาไว้ก่อน จากนั้นก็จะเดินสังเกตไปรอบวัด เพื่อดูว่าพระพุทธรูปมีค่าตั้งอยู่บริเวณใด พอเจ้าอาวาสหรือพระในวัดเผลอ พวกตนก็จะลักเอาพระพุทธรูปที่มีอายุเก่าแก่หลบหนีไป
ทั้งสองยังได้ให้การอีกว่า เมื่อลักได้แล้วก็จะนำไปขายต่อให้นายสำรวย บุตรธนู อยู่บ้านเลขที่ 131 หมู่ 1 ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี นายประดิษฐ์ ท่าช่วงทำเล อยู่ที่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 7 เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี และนายอนุวัตร เกษรสมบัติ อยู่บ้านเลขที่ 69/1 หมู่ 13 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย
โดยคนรับซื้อจะขายให้กันเป็นทอด ๆ ในราคาองค์ละ 2,000-3,500 บาท ซึ่งพวกตนได้ขับรถตระเวนลักพระพุทธรูปในเขต อ. อ.เมือง บ้านผือ อ.บ้านดุง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย กระทั่งมาถูกตรวจค้นจับกุมดังกล่าว ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์” และจะเร่งติดตามจับกุมผู้รับซื้อพระพุทธรูปมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. พ.ต.อ.ประมวล ปลัดขวา ผกก.สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ทราบว่ามีแก๊งคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักพระพุทธรูปภายในเขตพื้นที่ จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.นิทัศน์ ทนะขว้าง สว.สป. นำกำลังออกสืบสวน และตรวจสอบในพื้นที่รับผิดชอบ ถึง กม.ที่ 8 ถนนบ้านผือ – ท่าบ่อ บ้านดงหวาย ต.หายโศก อ.บ้านผือ พบชาย 2 คน ขับรถยนต์ปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บฉ 8073 หนองคาย มุ่งหน้าไป อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณคล้ายคนร้ายตามที่ได้รับแจ้ง
ตำรวจจึงได้เรียกให้หยุดรถ และแสดงตัวขอตรวจค้น จากการตรวจค้นพบพระพุทธรูปพระพุทธชินราช เนื้อทองเหลือง หน้าตักกว้าง 4 นิ้ว และพระพุทธรูปปรางค์มารวิชัย เนื้อทองเหลือง หน้าตักกว้าง 12 นิ้ว ซุกซ่อนอยู่เบาะหลังด้านหลัง สอบถามชายทั้งสอง ได้สารภาพว่า ได้ลักพระพุทธรูปพระพุทธชินราชมาจากวัดป่าสุขไพรวัลย์ ต.หนองแวง อ.บ้านผือ
โดยพระเวียงไชย ยติโก เจ้าอาวาสวัด วัดป่าสุขไพรวัลย์ ต.หนองแวง อ.บ้านผือ ได้มาแจ้งหายเอาไว้เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา และลักพระพุทธรูปปรางค์มารวิชัย มาจากวัดบ้านดงหวาย ต.หายโศก อ.บ้านผือ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาทำการสอบสวน
ทราบชื่อว่านายสมพาน โกศิลา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154 หมู่ 5 และนายอุดม ภูติพันธ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 5 ทั้งสองคนอยู่ ต.เมืองหมี อ.เมือง จ.หนองคาย ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง แต่ระยะหลังเศรษฐกิจไม่ดี จึงได้ชักชวนกันตระเวนลักพระพุทธรูปไปขาย โดยทำทีไปติดต่องานสร้างกำแพงรั้ววัด โบสถ์ ศาลการเปรียญ
ถ้าหากไม่มีงานก่อสร้าง ก็จะทำทีนำเครื่องสังฆทานไปถวายเจ้าอาวาส เพื่อเข้าไปดูลาดเลาไว้ก่อน จากนั้นก็จะเดินสังเกตไปรอบวัด เพื่อดูว่าพระพุทธรูปมีค่าตั้งอยู่บริเวณใด พอเจ้าอาวาสหรือพระในวัดเผลอ พวกตนก็จะลักเอาพระพุทธรูปที่มีอายุเก่าแก่หลบหนีไป
ทั้งสองยังได้ให้การอีกว่า เมื่อลักได้แล้วก็จะนำไปขายต่อให้นายสำรวย บุตรธนู อยู่บ้านเลขที่ 131 หมู่ 1 ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี นายประดิษฐ์ ท่าช่วงทำเล อยู่ที่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 7 เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี และนายอนุวัตร เกษรสมบัติ อยู่บ้านเลขที่ 69/1 หมู่ 13 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย
โดยคนรับซื้อจะขายให้กันเป็นทอด ๆ ในราคาองค์ละ 2,000-3,500 บาท ซึ่งพวกตนได้ขับรถตระเวนลักพระพุทธรูปในเขต อ. อ.เมือง บ้านผือ อ.บ้านดุง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย กระทั่งมาถูกตรวจค้นจับกุมดังกล่าว ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์” และจะเร่งติดตามจับกุมผู้รับซื้อพระพุทธรูปมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป