เอเจนซี-พญามังกร ผู้ผลิตพืชผลรายใหญ่สุดของโลก ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับสูงสุดใน 8 มณฑลเมื่อวันพฤหัสฯ(5 ก.พ.) สืบเนื่องจากวิกฤตภัยแล้งครั้งประวัติศาสตร์ สร้างความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยประชาชนเกือบ 4 ล้านคน ขาดแคลนน้ำดื่ม อีกทั้งพืชผลในพื้นที่รวมราว 60 ล้านไร่ กำลังเหี่ยวตาย
นอกจากนี้ ความเสียหายในไร่นายังอาจหั่นรายได้เกษตรกร และสร้างอุปสรรคต่อแผนปฏิรูปชนบท ซึ่งรัฐบาลจีนกำหนดเป็นภารกิจหมายหนึ่งอยู่ขณะนี้ ขณะที่ยังมีแรงงานอพยพถึง 20 ล้านคน ตกงานอยู่
สำนักงานบรรเทาปัญหาภัยแล้งและควบคุมน้ำท่วมแห่งชาติจีน ได้เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ขององค์กร ประกาศปรับระดับภาวะฉุกเฉินระดับหนึ่ง ทั้งนี้ จีนได้กำหนดระดับภาวะฉุกเฉินไว้ 4 ระดับ โดยระดับรุนแรงสุด คือ ระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ สำนักข่าวซินหัวได้รายงานว่าประธานาธิบดีหู จิ่นเทา และนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมมาตรการทุกอย่างเพื่อรับมือกับภัยแล้งครั้งนี้ระหว่างการประชุมคณะมุขมนตรีเมื่อวันพฤหัสฯ(5 ก.พ.) พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้กำหนดงบประมาณสำหรับปฏิบัติการสู้ภัยแล้ง 58.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ในสถานการณ์ปกติ จีนก็มีปัญหาขาดแคลนแหล่งน้ำสำหรับแจกจ่ายแก่ประชาชนกินใช้ในชีวิตประจำวัน สืบเนื่องจากสภาพอากาศที่เป็นกรดในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ ขณะที่พื้นที่ตอนใต้นั้น มักเกิดวิกฤตน้ำท่วม ภัยธรรมชาติดังกล่าว สร้างความเสียหายแก่ผลผลิตทางเกษตรมหาศาล คิดเป็นมูลค่าหลายสิบล้านเหรียญสหรัฐฯในแต่ละปี
สำหรับภัยแล้งครั้งนี้ เริ่มจู่โจมจีนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน และได้สร้างความเสียหายแก่พืชผลในพื้นที่รวม 24 ล้านเอเคอร์ หรือราว 60 ล้านไร่ (หนึ่งเอเคอร์ เท่ากับ 2.5 ไร่)โดย 1 ใน 3 ของพื้นที่เหล่านี้ เสียหายอย่างหนัก สำหรับมณฑลที่โดนภัยแล้งจู่โจมหนักที่สุด เป็นกลุ่มมณฑลในภาคเหนือทั้งหมด และหลายมณฑลในภาคตะวันออก
ขณะนี้ เกือบครึ่งของพื้นที่ปลูกข้าวสาลีใน 8 มณฑล ได้แก่เหอเป่ย, ซันซี, อันฮุย, เจียงซู, เหอหนัน, ซันตง, ส่านซี, และกันซู่ แห้งผาก ต้นพืชเฉา บ้างเหลืองกรอบ ขณะที่ประชาชนในมณฑลเหล่านี้ ต่างขาดน้ำดื่มที่เหมาะสม
หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษของรัฐ ไชน่า เดลี่ อ้างเจ้าหน้าที่ในสำนักข่าวอุตุนิยมวิทยาในเหอหนันบอกว่า ภัยแล้งครั้งนี้ ร้ายกาจที่สุดในรอบ 58 ปี นับจากปี 2494 แหล่งพื้นที่ปลูกข้าวสาลีแห่งหลักของมณฑล ขาดฝนมา 105 วันแล้ว
มังกรชีช้ำหนัก
ภัยแล้งอาจทำให้ผลผลิตพืชผลตกต่ำ และซ้ำเติมภาคส่งออก อีกทั้งยังเป็นอุปสรรคต่อแผนพัฒนาภาคชนบทของรัฐบาล ที่มุ่งส่งเสริมรายได้ของเกษตรกร ขณะที่ยังมีแรงงานอพยพอีก 20 ล้านคน กำลังตกงาน
“ผลผลิตข่าวสาลีประจำฤดูร้อนนี้ อาจลดลงร้อยละ 2 ถึง ร้อยละ 5 หรือเท่ากับ 2-5 ล้านตัน” หม่า เวินเฟิ่ง นักวิเคราะห์ด้านพืชผลประจำบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจการเกษตรแห่งปักกิ่ง (Beijing Orient Agribusiness Consultant Ltd) กล่าว พร้อมชี้ว่า อย่างไรก็ตาม จีนยังมีข้าวสาลีอยู่เหลือเฝือ เก็ยไว้ในคลังยุ้งฉางของรัฐ 60 ล้านตัน
อย่างไรก็ตาม ความเสียหายในนาข้าวและไร่พืชผลของจีน ก็ดันราคาข้าวสาลีโลกดีดตัวสูงสุดในรอบสองสัปดาห์เมื่อวันพฤหัสฯ(5 ก.พ.) โดยราคาข้าวสาลีในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนมีนาคม ขยับขึ้นร้อยละ 0.2 เท่ากับ 5.63 เหรียญสหรัฐฯ ในตลาดชิคาโก.
