“เมอร์ริลล์ ลินช์” มั่นใจจีนยังไม่เข้าสู่ยุคเงินฝืด

เอเจนซี่ – เมอร์ริลล์ ลินช์ คาด CPI จีนเดือนกุมภาพันธ์จะร่วงลงอีก แต่เชื่อจีนยังไม่เข้าสู่ยุคเงินฝืด เหตุราคาอาหารที่เป็นสัดส่วนใหญ่ยังจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เมอร์ริลล์ ลินช์ วานิชธนกิจชื่อดังของสหรัฐฯ เมื่อเร็วๆ นี้ได้เผยรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจจีนว่า ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะร่วงลงมาจากปีก่อน โดยรายงานระบุว่า “เราคาดว่า CPI ของจีนในเดือนกุมภาพันธ์จะอยู่ในแดนลบ แต่การที่ดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อขยับลงปีต่อปีนั้นไม่ได้หมายความว่าจีนกำลังเข้าสู่ภาวะเงินฝืด”

“ไม่ว่าจะเป็นดัชนีราคาผู้บริโภคหรือดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ก็ดีอาจขยับลงได้ อันเนื่องมาจากปัญหาพายุหิมะและราคาพลังงานพุ่งสูงเมื่อปีที่แล้ว แต่ราคาอาหาร ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของ CPI จีน กำลังขยายตัวขึ้นเดือนต่อเดือน ขณะที่ราคาวัตถุดิบก็ยังคงที่” รายงานระบุ

ทั้งนี้ เมื่อเดือนธันวาคมปี 2551 ดัชนี CPI ของจีนขยับขึ้นแค่ 1.2% นับเป็นอัตราการขยายตัวที่ชะลอตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 และยังเป็นตัวเลขต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2549 เป็นต้นมา ขณะที่เดือนพฤศจิกายนตัวเลข CPI อยู่ที่ 2.4% และเคยทำสถิติตัวเลขสูงสุดในรอบ 12 ปีมาแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยตัวเลขสูงถึง 8.7%

ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต ซึ่งสะท้อนเงินเฟ้อในภาคค้าส่งนั้น ลดลง 1.1% ในเดือนธันวาคม หลังจากเคยขยับขึ้น 2% ในเดือนพฤศจิกายน และทำสถิติรอบ 12 ปีแตะ 10.1% มาแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม

การที่ดัชนีเงินเฟ้อหดลงเช่นนี้ทำให้นักเศรษฐศาสตร์บางรายออกมากระตุ้นให้รัฐบาลเข็นมาตรการออกมารับมือภาวะเงินฝืดที่กำลังใกล้เข้ามาทุกที ซึ่งจะทำให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนทางธุรกิจลดลงจนส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจยิ่งย่ำแย่กว่าเดิม

อย่างไรก็ตามมีผู้เชี่ยวชาญบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย ดังเช่นนักเศรษฐศาสตร์ขององค์กรภาครัฐอย่าง หวัง เสี่ยวกวงกลับมองว่า เงินฝืดไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด แต่กลับดีเสียอีกสำหรับปีนี้ เพราะการที่ราคาลดลงก็จะช่วยกระตุ้นความต้องการจับจ่ายซื้อของให้เพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง