คลังลั่นขึ้นภาษีน้ำมัน ก.พ.นี้ สกัดเงินเฟ้อ กังวลเงินฝืด-ศก.ถดถอย

คลัง เชื่อภาวะเงินเฟ้อเดือน ก.พ.จะดีขึ้น หลังรัฐบาลประกาศเก็บภาษีน้ำมันเต็มเพดาน มั่นใจราคาไม่ขึ้นพรวดแบบก้าวกระโดด พร้อมแสดงความกังวลภาวะเงินฝืด หากเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างรุนแรง และประชาชนไม่จับจ่ายใช้สอย และมีโอกาสที่ ศก.จะมีแนวโน้มถดถอย แนะรัฐเร่งใช้มาตรการเข้ามากระตุ้น-ดูแล

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงแนวโน้มเงินเฟ้อในเดือนมกราคม 2552 มีโอกาสที่จะติดลบได้ เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2552 อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวดีขึ้น หลังยกเลิกอุดหนุนราคาน้ำมัน 6 มาตรการ 6 เดือน โดยรัฐบาลจะหันมาจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันตามเดิมนั้น เชื่อว่า จะทำให้ปัญหาเงินเฟ้อลดลง

อย่างไรก็ดี นายสมชัย มองว่า การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน จะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้รถ เนื่องจากรัฐบาลจะใช้เงินจากกองทุนน้ำมันฯ เข้าไปช่วยอุดหนุนเพื่อไม่ทำให้ราคาน้ำมันต้องปรับตัวเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด

ส่วนที่หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ภาวะเงินฝืด หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อปรับลดลงอย่างต่อเนื่องนั้น นายสมชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวล เพราะอาจเป็นเพียงภาวะเงินฝืดในทางเทคนิคเท่านั้น แต่หากภาวะเงินฝืดเกิดจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างรุนแรงและประชาชนไม่จับจ่ายใช้สอยสิ่งนี้จะน่ากังวลมากกว่า

สำหรับที่หลายฝ่าย มองว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2551 อาจจะติดลบได้ถึง 3.5% ต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาส 1 ปี 2552 ที่อาจจะติดลบด้วยเช่นกันนั้น ยอมรับว่า มีความเป็นไปได้สูง และอาจทำให้ภาวะเศรษฐกิจของไทยเข้าสู่ช่วงถดถอยได้

ทั้งนี้ รัฐบาลยังคงตั้งความหวังเอาไว้ว่า เศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นได้ในไตรมาสถัดไป ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องเร่งผลักดันมาตรการต่างๆ เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการคลัง นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย รวมถึงการใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันกับต่างประเทศได้ และไม่ทำให้เกิดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมากจนส่งผลให้เกิดวิกฤตได้