เอเอฟพี – จีนวางแผนคุมเข้มการตรวจสอบบริษัทแผ่นดินใหญ่ที่ต้องการลงทุนในต่างแดน หลังจากมีกระแสการลงทุนยังต่างแดนเพิ่มขึ้นท่ามกลางกระแสวิกฤตเศรษฐกิจ
เว็บไซต์กระทรวงพาณิชย์เผยร่างกฎระเบียบคุมเข้มบริษัทจีนข้ามฟ้าไปลงทุนต่างประเทศเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (7 ม.ค.) ระบุเรียกร้องให้บริษัทจีนที่ต้องการไปลงทุนต่างชาติด้วยเงินลงทุนตั้งแต่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป จำเป็นต้องขออนุมัติจากทางกระทรวง
นอกจากนี้บริษัทที่ไปลงทุนในประเทศที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางด้านการทูตกับรัฐบาลปักกิ่ง โครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และการลงทุนในดินแดนหรือประเทศที่มีความเสี่ยงสูงก็ต้องขออนุมัติเช่นเดียวกัน
สำหรับบริษัทที่ไม่ใช่วิสาหกิจรัฐที่ต้องการลงทุนยังต่างประเทศตั้งแต่ 10-100 ล้านเหรียญสหรัฐจะต้องขออนุมัติจากสาขาของกระทรวงพาณิชย์ระดับมณฑล เช่นเดียวกับบริษัทไม่ใช่ของรัฐที่ต้องการไปลงทุนกับบริษัทเหมืองแร่และพลังงานในต่างแดน รวมถึงโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทุกขนาดก็ต้องผ่านการอนุมัติก่อน
ทั้งนี้ร่างกฎระเบียบใหม่ข้างต้น ซึ่งจะมาแทนที่กฎเก่าที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2004 นั้น มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนและจัดระเบียบการลงทุนยังต่างแดนของบริษัทจีน โดยขณะนี้ทางกระทรวงกำลังขอประชามติเกี่ยวกับร่างกฎหมายดังกล่าวจนถึงวันที่ 20 มกราคมนี้
โดยตามกฎระเบียบที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ บริษัทที่ถูกควบคุมโดยตรงจากรัฐบาลกลางจะต้องขออนุมัติจากกระทรวงพาณิชย์ในการไปลงทุนต่างประเทศ ส่วนบริษัทอื่นๆ แค่เพียงขออนุญาตจากหน่วยงานระดับมณฑลเท่านั้น อีกทั้งยังไม่มีระบุรายละเอียดเงินลงทุนที่จะต้องขออนุญาตด้วย
ความเคลื่อนไหวข้างต้นนั้นมีขึ้นหลังจากที่บริษัทจีนจำนวนหนึ่งเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงจากการตัดสินใจนำเงินไปลงทุนต่างประเทศมหาศาลในขณะที่ทั่วโลกเผชิญพิษเศรษฐกิจรุมเร้า จนทำให้บริษัทจีนหลายรายเผชิญภาวะขาดทุน
ดังเช่นบริษัทผิงอัน อินชัวรันซ์ กรุ๊ป บริษัทประกันภัยอันดับ 2 ของจีน ก็ขาดทุนถึง 15,700 ล้านหยวน (2,300 ล้านเหรียญสหรัฐ) จากการลงทุนในบริษัทด้านการเงินของยุโรป ฟอร์ติส ขณะที่บริษัทไชน่า อินเวสต์เม้นท์ คอร์ป (ซีไอซี) หรือ กองทุนความมั่งคั่งของจีน ก็เผชิญพิษขาดทุนหนักจากการลงทุนในมอร์แกน สแตนลีย์ และกองทุนเอกชน แบล็คสโตน กรุ๊ป
เว็บไซต์กระทรวงพาณิชย์เผยร่างกฎระเบียบคุมเข้มบริษัทจีนข้ามฟ้าไปลงทุนต่างประเทศเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (7 ม.ค.) ระบุเรียกร้องให้บริษัทจีนที่ต้องการไปลงทุนต่างชาติด้วยเงินลงทุนตั้งแต่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป จำเป็นต้องขออนุมัติจากทางกระทรวง
นอกจากนี้บริษัทที่ไปลงทุนในประเทศที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางด้านการทูตกับรัฐบาลปักกิ่ง โครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และการลงทุนในดินแดนหรือประเทศที่มีความเสี่ยงสูงก็ต้องขออนุมัติเช่นเดียวกัน
สำหรับบริษัทที่ไม่ใช่วิสาหกิจรัฐที่ต้องการลงทุนยังต่างประเทศตั้งแต่ 10-100 ล้านเหรียญสหรัฐจะต้องขออนุมัติจากสาขาของกระทรวงพาณิชย์ระดับมณฑล เช่นเดียวกับบริษัทไม่ใช่ของรัฐที่ต้องการไปลงทุนกับบริษัทเหมืองแร่และพลังงานในต่างแดน รวมถึงโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทุกขนาดก็ต้องผ่านการอนุมัติก่อน
ทั้งนี้ร่างกฎระเบียบใหม่ข้างต้น ซึ่งจะมาแทนที่กฎเก่าที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2004 นั้น มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนและจัดระเบียบการลงทุนยังต่างแดนของบริษัทจีน โดยขณะนี้ทางกระทรวงกำลังขอประชามติเกี่ยวกับร่างกฎหมายดังกล่าวจนถึงวันที่ 20 มกราคมนี้
โดยตามกฎระเบียบที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ บริษัทที่ถูกควบคุมโดยตรงจากรัฐบาลกลางจะต้องขออนุมัติจากกระทรวงพาณิชย์ในการไปลงทุนต่างประเทศ ส่วนบริษัทอื่นๆ แค่เพียงขออนุญาตจากหน่วยงานระดับมณฑลเท่านั้น อีกทั้งยังไม่มีระบุรายละเอียดเงินลงทุนที่จะต้องขออนุญาตด้วย
ความเคลื่อนไหวข้างต้นนั้นมีขึ้นหลังจากที่บริษัทจีนจำนวนหนึ่งเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงจากการตัดสินใจนำเงินไปลงทุนต่างประเทศมหาศาลในขณะที่ทั่วโลกเผชิญพิษเศรษฐกิจรุมเร้า จนทำให้บริษัทจีนหลายรายเผชิญภาวะขาดทุน
ดังเช่นบริษัทผิงอัน อินชัวรันซ์ กรุ๊ป บริษัทประกันภัยอันดับ 2 ของจีน ก็ขาดทุนถึง 15,700 ล้านหยวน (2,300 ล้านเหรียญสหรัฐ) จากการลงทุนในบริษัทด้านการเงินของยุโรป ฟอร์ติส ขณะที่บริษัทไชน่า อินเวสต์เม้นท์ คอร์ป (ซีไอซี) หรือ กองทุนความมั่งคั่งของจีน ก็เผชิญพิษขาดทุนหนักจากการลงทุนในมอร์แกน สแตนลีย์ และกองทุนเอกชน แบล็คสโตน กรุ๊ป
