เอเจนซี่ – รัฐบาลจีนเสนอมาตรการ10 ประการกระชับสัมพันธ์จีน-ไต้หวัน พร้อมร่วมรับมือวิกฤตเศรษฐกิจโลก ปล่อยเงินกู้ 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้บริษัทไต้หวันบนแผ่นดินใหญ่ และยกระดับธนาคารไต้หวันเปิดสาขาในจีน ช่วยนักธุรกิจเข้าถึงเงินกู้ง่ายขึ้น
ในการประชุมอภิปรายทางเศรษฐกิจ การค้าและวัฒนธรรมระหว่างสองฝั่งช่องแคบ ครั้งที่ 4 ณ นครเซี่ยงไฮ้ ที่ปิดฉากไปเมื่อวานนี้(21 ธ.ค.) ลงนามนข้อตกลงหลายฉบับที่มุ่งเน้นกระชับความร่วมมือด้านการเงิน
ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะสร้างกลไกควบคุมดูเเลระบบระเบียบด้านการเงิน ที่จะช่วยให้ธนาคารไต้หวัน คือ ธนาคาร First Commercial และธนาคาร Hua Nan รวมทั้งธนาคารอื่นๆอีกห้าธนาคารสามารถยกระดับสำนักงานตัวแทนในประเทศจีนขึ้นเป็นสาขา ส่วนทางไต้หวันก็จะอนุญาตให้บริษัทจีนสามารถเข้าร่วมประมูลสัญญาก่อสร้างในเกาะไต้หวันได้
หวัง อี้ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการไต้หวันของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สูงสุดของฝ่ายจีน ที่รับผิดชอบความสัมพันธ์กับไต้หวัน ยังเสนอมาตรการ 10 ประการเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวัน รวมทั้งการให้เงินกู้ 130,000 ล้านหยวน (19,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) กับบริษัทไต้หวันที่ดำเนินธุรกิจบนแผ่นดินใหญ่ เพื่อช่วยบริษัททั้งหลายฝ่าฝันวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงสามปีข้างหน้านี้
มาตรการต่างๆนี้ช่วยเหลือไต้หวันได้มาก เมื่อธนาคารไต้หวันยกระดับสำนักงานตัวแทนเป็นสาขาได้ ก็จะสามารถร่วมมือกับธนาคารจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อให้บริการทางการเงินกับธุรกิจไต้หวันในจีนได้ ” นอร์แมน อิน ศาสตราจารย์ด้านการธนาคาร จากมหาวิทยาลัยเจิ้งจื้อในไทเป ซึ่งเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย ให้ความเห็น
ทั้งนี้บริษัทไต้หวันที่ดำเนินธุรกิจในจีนกำลังเจ็บปวดจากกำไรที่น้อยลง เนื่องจากต้นทุนค่าเเรงที่เพิ่มขึ้น เเละความต้องการสินค้าที่ลดลงเนื่องจากภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก แต่การเข้าถึงเงินทุนในจีนกลับยากลำบาก เพราะธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์ของไต้หวันทำได้เเค่เปิดสำนักตัวแทนในจีน ไม่ได้รับอนุญาตให้ให้บริการทางการเงินใดๆ
นอกจากนี้ในที่การประชุม ซึ่งมีนายอู๋ โป๋ฉง ประธานพรรคก๊กมินตั๋งของไต้หวัน และนายเจี่ย ชิ่งหลิง รองนายกรัฐมนตรีจีนเข้าร่วมด้วย ยังได้วางพิมพ์เขียวสำหรับการเจรจาระดับรัฐบาลในขั้นต่อไป หลังจากการเจรจาระดับนี้ถูกระงับมาเก้าปีเเล้ว
จีน-ไต้หวันร่วมรับมือวิกฤต
“ความร่วมมือที่เกิดขึ้นนี้มีความหมายมาก เพราะวิกฤตการเงินโลกกำลังจะลุกลามเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิต ทั้งไต้หวันและจีนมีหนี้ต่างประเทศไม่มาก และต่างมีสัดส่วนการออมที่สูง ดังนั้นเราจึงควรใช้เงินออมก้อนใหญ่นี้มาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” สตรีฟ ฉือ ประธานตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน กล่าว
สำหรับธนาคารจีนที่จะร่วมปล่อยสินเชื่อเพื่อช่วยเหบือธุรกิจไต้หวันในจีน ได้เเก่ ธนาคารเพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรม(Industrial and Commercial Bank of China) และแบงก์ออฟไชน่า แห่งละ 50,000 ล้านหยวน และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งชาติจีน(China Development Bank)จะให้เงินกู้ 30,000 ล้านหยวน เพิ่มเติมจากก่อนหน้าที่ให้ไปเเล้ว 30,000 ล้านหยวน
เจิง หย่งฉวน รองประธานพรรคก๊กมินตั๋ง เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ตกลงที่จะสร้างกลไกควบคุมทางการเงิน และระบบหักบัญชีระหว่างสกุลเงิน ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารไต้หวันสามารถให้บริการทางการเงินในจีนได้
สร้างระบบธนาคาร ช่วยธุรกิจเข้าถึงเงินกู้
“ถ้าเราให้เงินกู้กับธุรกิจไต้หวันที่อยู่ในจีน จะมีความเสี่ยงสูงมาก เพราะเราไม่รู้สถานะทางการเงินที่เเท้จริงในไต้หวันของบริษัทเหล่านี้” อู๋ กัง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายนวัตกรรมและพัฒนาธุรกิจของธนาคารเพื่อการนำเข้าส่งออกจีน กล่าว
อู๋ กัง เสริมว่า “แต่ถ้าหากสำนักงานผู้แทนของธนาคารไต้หวันในจีนสามารถยกระดับเป็นสาขาได้ ธนาคารไต้หวันจะสามารถร่วมมือกับเราเพื่อให้เงินกู้กับธุรกิจไต้หวันในแผ่นดินใหญ่ เพราะเราสามารถควบคุมความเสี่ยงได้”
นอกจากนี้ มาตรการสิบประการที่สนับสนุนความสัมพันธ์จีน-ไต้หวัน ยังประกอบด้วย การสนับสนุนให้บริษัทไต้หวันมีส่วนร่วมในโครงการก่อสร้างสาธารณะในจีน, เพิ่มความร่วมมือในการพัฒนาพลังงานใหม่,อิเล็คทรอนิคส์ และยาแผนจีน รวมทั้งอนุญาตให้ทนายความชาวไต้หวันทำงานในจีนได้
จีนทุ่ม 2 พันล้าน ซื้อ “จอแบน” จากไต้หวัน
หวัง อี้ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการไต้หวันของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นอกจากมาตรการจูงใจ 10 ประการเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวันแล้ว บริษัทจีนจะสั่งซื้อจอคอมพิวเตอร์ชนิดแบนมูลค่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯจากบริษัทไต้หวัน
“เรายินดีมากกับข้อเสนอนี้ ที่ออกมาในช่วงที่ความต้องการของตลาดโลกลดลงมาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา” โฆษกของบริษัท AU Optronics ผู้ผลิตจอแอลซีดีจากไต้หวัน ซึ่งเป็นรายใหญ่อันดับสามของโลก รองจากซัมซุง และแอลจี กล่าว
ทั้งนี้อุตสาหกรรมผลิตจอแอลซีดีของไต้หวันได้รับผลกระทบหนัก จากการบริโภคที่อ่อนแรงในตลาดยุโรปและสหรัฐฯ โดย AU Optronics มียอดขายในไตรมาสสามลดลง 96% ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในรอบหกไตรมาส
อย่างไรก็ตาม อเล็ก หวง นักวิเคราะห์จากบริษัท เมก้า ซิเคียวริตี้ เตือนว่า ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลดีที่บริษัทไต้หวันจะได้รับ
“เราต้องดูก่อนว่าฝ่ายจีนจะสั่งซื้อมาเมื่อไหร่ หนึ่งปี สองปี หรือสามปี และเราก็ยังไม่รู้ด้วยว่าจอขนาดไหนที่ทางจีนจะซื้อ” อเล็ก หวง กล่าว
นักธุรกิจเชื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไต้หวัน เเต่ต้องรอดูรายละเอียดเพิ่มเติม
“มาตรการเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดหุ้นของไต้หวันได้เเน่นอน นอกจากนี้การสั่งซื้อจอคอมพิวเตอร์แบบแบนจากจีน ก็มีส่วนช่วยอย่างมากในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงที่ความต้องการสินค้าลดลง”ซูซาน ชาง ประธานของ Taiwan Financial Holding Co. กลุ่มการเงินที่มีสินทรัพย์มากที่สุดในไต้หวัน กล่าว
ทั้งนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันลดลง 45% ในปีนี้ โดยลดลงมากที่สุดในรอบ 18 ปี เนื่องจากความต้องการในสินค้าอิเล็คทรอนิคส์ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของไต้หวันลดลงอย่างมาก แต่หลังจากการประชุมเมื่อสุดสัปดาห์ ดัชนีก็กระเตื้องขึ้นมา 0.87% ในการเปิดตลาดเช้าวันนี้ เพื่อตอบรับข่าวที่ทางการจีนจะสนับสนุนเงินกู้ 19,000 พันล้านเหรียญสหรัฐฯให้กับบริษัทไต้หวันในแผ่นดินใหญ่ แต่ในช่วงบ่าย ดัชนีปิดตลาดปรับตัวลดลง 3.39% เนื่องจากนักลงทุนยังรอดูรายละเอียดของข้อตกลงดังกล่าวเพิ่มเติม
ข้อเสนอจากการประชุมครั้งนี้จะถูกจัดทำเป็นบันทึกช่วยจำอย่างเป็นทางการ ระหว่างรัฐบาลจีนและไต้หวัน และคาดว่าจะมีการลงนาม ประมาณกลางปีหน้า
“ฉันทามติครั้งนี้สะท้อนถึงความคาดหวังของผู้คนในสองฝากฝั่ง และจะมีผลอย่างจริงจังต่อนโยบายที่จัดทำโดยรัฐบาลทั้งสองฝ่าย” เจี่ย ชิ่งหลิง รองนายกรัฐมนตรีจีนและ สมาชิกกรมการเมืองประจำพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าว
เจี่ย ชิ่งหลิง ยืนยันว่า ทางการจีนจะให้ความช่วยเหลือไต้หวันหากผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกเลวร้ายลงอีก
อู๋ โป๋ฉง ประธานพรรคก๊กมินตั๋ง เรียกร้องให้ “ตามหาเวลาที่หายไปในอดีต” ซึ่งมีนัยยะถึงการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวัน ที่แตกแยกกันนับตั้งแต่ปี 1949 ที่พรรคคอมมิวนิสต์สถาปนาการปกครองบนแผ่นดินใหญ่ ส่วนพรรคก๊กมินตั๋งไปตั้งรัฐบาลบนเกาะไต้หวัน
“ผมหวังว่าจะมีโอกาสมาร่วมงานในปีหน้าอีก และหวังว่าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ซึ่งเป็นฝ่ายค้านของไต้หวันก็จะมีโอกาสเข้ามาร่วมประชุมด้วย” อู๋ โป๋ฉง กล่าว
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวัน เริ่มดีขึ้น ภายหลังการขึ้นเป็นประธานาธิบดีของ หม่า อิงจิ่ว จากพรรคก๊กมินตั๋ง โดยล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่เเล้ว ทั้งสองเพิ่งเปิดการเชื่อมโยงโโยตรงทั้งสามด้านที่ตัดขาดกันมานานหกสิบปี ได้แก่ เที่ยวบินตรงระหว่างกันทุกวัน รวมทั้งบริการไปรษณีย์ และเส้นทางเดินเรือ
ส่วนการประชุมอภิปรายทางเศรษฐกิจ การค้าและวัฒนธรรมระหว่างสองฝั่งช่องแคบ ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่สี่นี้ เป็นการประชุมที่จัดขึ้นทุกปี นับตั้งเเต่ประธานาธิบดีหูจิ่นเทาของจีน พบกับนายเหลียน จ้าน อดีตประธานพรรคก๊กมินตั๋งของไต้หวัน เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2005
