xs
xsm
sm
md
lg

ซอคเจนโหมขยายธุรกิจในจีน หวังโกยกำไรช่วงเศรษฐกิจขาลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อาคารสำนักงานของธนาคารโซซิเอเต้ เจเนราล (ซอคเจน) ในนครนิวยอร์ก(บันทึกภาพเมื่อมีนาคม 2551)-เอเอฟพี
รอยเตอร์ – ธนาคารโซซิเอเต้ เจเนราล (ซอคเจน) เดินเครื่องเต็มสูบ ขยายธุรกิจครั้งใหญ่บนแดนมังกรปีหน้า เตรียมรับพนักงานเพิ่มอีกเพียบ และขยายเครือข่ายอีก 40-50 สาขาในอีก 5 ปีข้างหน้า

ซอคเจนได้เปิดหน่วยให้บริการธุรกิจธนาคารแก่ผู้บริโภคในจีน ซึ่งซอคเจนเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวเมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเปิดช่องทางให้ธนาคารฝรั่งเศสรายนี้เข้าถึงแหล่งเงินออมส่วนบุคคล ที่มีมูลค่าสูงถึงราว 2 ล้านล้านดอลลาร์บนแดนมังกรได้มากขึ้นเช่นเดียวกับธนาคารอีกสิบกว่าราย

โดยก่อนหน้านี้ ซอคเจนมุ่งดำเนินธุรกิจที่เน้นให้บริการลูกค้าประเภทบริษัทและวาณิชธนกิจผ่านทาง 5 สาขาของธนาคาร

นายปาสกัล เซฟริน หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจและบริการลูกค้าประเภทบริษัทในจีนของซอคเจนระบุเมื่อวันพุธ ( 5 พ.ย.2551) ว่า ขณะนี้ซอคเจนเตรียมเสนอให้บริการทางการเงินที่หลากหลายประเภทกว่าเดิม

และการเปิดหน่วยให้บริการโดยตรงดังกล่าวถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของซอคเจนในการเข้าแสวงหาความมั่งคั่งในจีน เนื่องจากจะทำให้ธนาคารสามารถขยายกลุ่มลูกค้าประเภทบริษัทและลูกค้ารายย่อยได้มากขึ้น

ปัจจุบัน ซอคเจนมีพนักงาน 330 คนในจีน และเตรียมรับพนักงานเพิ่มอีกอย่างน้อย 2 เท่าในปี 2552 ซึ่งได้เริ่มดำเนินการแล้ว

นอกจากนั้น ถึงแม้ว่าซอคเจนจะถูกซิติกรุ๊ปฉวยโอกาสเข้าซื้อกิจการของธนาคารกวางต่ง ดิเวลอปเมนต์ (Guangdong Development Bank) ไปได้เมื่อปีที่แล้ว หลังจากช่วงชิงกันมานานเกือบ 2 ปี
อย่างไรก็ตาม เซฟรินกล่าวว่า ซอคเจนยังคงมองหาโอกาสที่เหมาะสมในการเข้าซื้อหุ้นในธนาคารจีน หรือดำเนินโครงการต่างๆ ร่วมกัน

การเปิดหน่วยให้บริการธุรกิจธนาคารแก่ผู้บริโภคในจีนครั้งนี้ถือเป็นการบุกจู่โจมครั้งแรกของซอคเจนในเอเชีย โดยที่ผ่านมา ซอคเจนจะเน้นแต่ธุรกิจบริการด้านอื่น ๆ เช่น การเป็นตัวแทนในการซื้อขายหุ้นและพันธบัตร ตลอดจนการบริหารสินทรัพย์

ธนาคารหลายราย เช่น ซิติกรุ๊ป, เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ และบีเอ็นพี ปาริบาส์ ได้เปิดหน่วยธุรกิจให้บริการขึ้นในจีนแล้วในช่วงที่ผ่านมา โดยหวังดึงดูดผู้บริโภคชั้นกลาง ซึ่งกำลังขยายจำนวนอย่างรวดเร็ว อันหมายถึงแหล่งกำไร ที่ธนาคารอาจกอบโกยได้ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังมีทิศทางตกต่ำ

ทั้งนี้ ในปี 2546 ซอคเจนและเป่าสตีล กรุ๊ป บริษัทผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดของจีนยังได้จับมือลงทุนร่วมกันในรูปของบริษัทบริหารกองทุน ชื่อว่า Fortune SGAM อันเป็นกองทุน ที่มีต่างชาติเข้าร่วมเป็นรายที่สองในจีน โดยซอคเจนถือหุ้นร้อยละ 49
กำลังโหลดความคิดเห็น