หนังสือพิมพ์สากล / รอยเตอร์– ธนาคารกลางแห่งประเทศจีน ได้ร่วมกับคณะกรรมการกำกับดูแลธนาคารจีนออกประกาศกำหนดให้สถาบันการเงินแต่ละแห่งควบคุมการปล่อยสินเชื่อให้กับอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จีนมองว่า การออกนโยบายเช่นนี้ เป็นการลดความเสียหายในภาคอสังหาฯและเป็นมาตรการควบคุมเร่งด่วนเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงภาคธนาคาร
โดยเมื่อวันพุธ (27 ส.ค.)แบงก์ชาติจีนกับคณะกรรมการกำกับดูแลธนาคารจีน (ซีบีอาร์ซี) ได้ประกาศว่า ทางการจีนได้สั่งห้ามธนาคารไม่ให้ปล่อยสินเชื่อให้กับวิสาหกิจที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกรณีการขายที่ดิน รวมไปถึงไม่อนุญาตให้มีการปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการที่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใช้ที่ดินการเกษตรมาเพื่อการอยู่อาศัย”
ประกาศที่ออกโดยหน่วยงานควบคุมของจีนนี้ เท่ากับตอกย้ำการควบคุมการปล่อยกู้เพื่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลมังกร ซึ่งเห็นลางมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ทำให้วิสาหกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องดิ้นหาช่องทางเงินทุนจากทางอื่นมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นจากบริษัทเอกชน หรือแม้แต่การขายหุ้นของโปรเจกต์ให้กับนักลงทุน
เคนนี่ โฮ ผู้รับผิดชอบฝ่ายวิจัยในจีนของ โจนส์ แลง ลาซาลล์ (Jones Lang Lasalle)บริษัทชั้นนำรายหนึ่งของโลกในธุรกิจการให้บริการและบริหารการลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์ได้กล่าวว่า “ประกาศนี้เท่ากับผู้คุมนโยบายการเงินกับคณะกรรมการกำกับดูแลธนาคารจีนจะเดินหน้าควบคุมเศรษฐกิจมหภาคด้วยการคุมเข้มทางการเงิน ซึ่งอาจเป็นเพราะซีบีอาร์ซีรู้สึกว่ามาตรการควบคุมการปล่อยกู้เพื่ออสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในปัจจุบันนั้นยังไม่ได้รับการนำไปปฏิบัติอย่างเข้มงวดเพียงพอ”
ขณะที่ผู้ที่อยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์รายหนึ่งได้เปิดเผยว่า “นโยบายนี้ ทำให้เห็นได้ชัดว่าระหว่างธนาคารกับวิสาหกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น ธนาคารได้เลือกที่จะปกป้องธุรกิจธนาคารก่อน”
นิตยสารดิ อิโคโนมิสต์เคยลงรายงานไว้ว่า “ประเทศ 2 ใน 3 จากทั่วโลกนั้นมีปัญหาฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์แฝงอยู่ โดยมีจีน รัสเซียและแอฟริกาใต้อยู่ในอันดับต้นๆ ในขณะที่คุณเฉิง เซิ่งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดัชนีจีนได้ระบุว่า “ตอนนี้วิสาหกิจอสังหาริมทรัพย์หลายรายในโลกกำลังปรากฏกับภาวการณ์ปิดกิจการ แต่ที่ผ่านมาในจีนยังไม่ปรากฏ แม้แต่วิสาหกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็กที่ปิดตัวก็ไม่ค่อยพบ ทว่าเมื่อนโยบายการคุมเข้มนี้ถูกประกาศออกมา การปิดกิจการของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คงจะมีมากขึ้นเรื่อยๆแน่”
“นโยบายดังกล่าวจะส่งผลกับภาคอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศอย่างมาก สำหรับบริษัทที่มีการสร้างโครงการกระจายตัวอยู่ในเมือง โอกาสที่จะระดมทุนยังมีมากหน่อย แต่หากเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ทำเป็นโปรเจกต์ๆไป ในอนาคตจะทำให้หาเงินทุนได้ยากมากขึ้น”
นอกจากนั้นเฉินยังชี้ว่า “สิ่งนี้จะทำให้มาตรฐานในการระดมทุนสูงขึ้น ในอนาคตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางและขนาดเล็กในเมืองขนาดกลางและขนาดเล็กอาจจะมีการซื้อกิจการหรือโอนกิจการกันอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้น”
ทั้งนี้ กรมสถิติแห่งชาติจีนได้ระบุว่า ดัชนีการพัฒนาและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เดือนก.ค.อยู่ที่ 104.77 ลดลงจากเดือนมิ.ย. 0.02 จุด แต่เพิ่มขึ้น 1.36 จุดจากปีที่แล้ว ขณะที่ตัวเลขการพัฒนาและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของช่วง 7 เดือนแรกทั่วทั้งประเทศมีมูลค่า 1.5884 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 30.9
