เอเจนซี – ผู้แทนจีนแผ่นดินใหญ่ และไต้หวัน บรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์ ขยายความสัมพันธ์สองฝากฝั่ง เปิดเส้นทางบินของเที่ยวบินโดยตรงสายใหม่ที่ประหยัดเวลาเดินทาง ขยายเที่ยวบินผู้โดยสารแบบเหมาลำโดยตรง 3 เท่าตัวทุกวัน ประเดิมเปิดทางทั้งเที่ยวบินขนส่งสินค้า และเรือขนส่งสินค้า ขณะที่สารพัดกลุ่มผู้ประท้วง ยังปักหลักต้านจีน
เช้าวันนี้( 4 พ.ย.) สถานีโทรทัศน์ไต้หวัน เผยแพร่ภาพการลงนามครั้งยิ่งใหญ่ มูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างนาย เฉิน หยุนหลิน ผู้แทนจากจีนแผ่นดินใหญ่ และนายเจียง ปิ่งคุน หัวหน้าผู้เจรจาจากไต้หวัน หลังจากการพบกันของผู้แทนระดับสูงสุดจากสองฝากฝั่งจีน ในรอบ 60 ปี เริ่มขึ้นเมื่อเย็นวานนี้ที่ตึกไทเป 101 โดยทั้งสองฝ่ายตกลงจะจัดให้มีการประชุมร่วมของผู้แทนระดับสูงทุกๆหกเดือน สลับกันที่ไทเป และปักกิ่ง
โดยสาระสำคัญของความร่วมมือครั้งนี้ คือ เปิดเส้นทางบินโดยตรงสายใหม่ ที่ร่นเวลาของเที่ยวบินระหว่างสองดินแดน พร้อมเพิ่มเที่ยวบินโดยสารเหมาลำโดยตรงจากสัปดาห์ละ 36 เที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ เป็น 108 เที่ยวบินทุกวัน โดยจะบินไปยัง 21 เมืองบนแผ่นดินใหญ่
ข้อตกลงเชื่อมโยงโดยตรงครั้งประวัติศาสต์อีกด้านได้แก่ เปิดทางสำหรับเรือขนส่งสินค้าวิ่งข้ามช่องแคบถึงกันได้โดยตรงครั้งแรก เรือขนส่งสินค้าสามารถเทียบท่าเรือในไต้หวัน 11 แห่ง และ 63 แห่งในแผ่นดินใหญ่ พร้อมการอุดหนุนด้านภาษีได้แก่ยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีธุรกิจให้แก่บริษัทชิปปิ้งทั้งสองฝ่าย และยังเปิดเที่ยวบินขนส่งสินค้าโดยตรงครั้งแรก เดือนละ 60 เที่ยว พร้อมอนุญาตการเปิดสำนักงานประสานงานในสองดินแดน
รวมทั้งเปิดบริการไปรษณีย์ระหว่างกัน เป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปีที่สองจีนจะสามารถติดต่อกันทางไปรษณีย์โดยตรงทั้งส่งจดหมาย ของขวัญ และพัสดุด่วน
ข้อตกลงสำคัญอีกด้านของการประชุม ได้แก่ มาตรการความปลอดภัยอาหาร โดยจะมีการส่งข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับอาหาร ที่จะส่งผลต่อสาธารณะ อีกทั้งจัดตั้งกลไกแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องและการเรียกคืนรวมทั้งระงับการจำหน่ายชั่วคราวของผลิตภัณฑ์มีปัญหา ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นจุดชนวนการประท้วงใหญ่ต่อต้านประธานาธิบดีหม่า อิ่งจิ่วในเดือนที่ผ่านมา เป็นต้น ทั้งนี้ กรณีอื้อฉาวเมลามีนจากจีนที่รัฐบาลโต้ตอบไม่ทันการณ์ ได้เป็นประเด็นหนึ่งที่จุดชนวนการประท้วงใหญ่ต่อต้านประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่วเมื่อเดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ผู้แทนจีนและไต้หวันยังจะเจรจาเพิ่มความร่วมมือด้านการเงิน ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะพิจารณาอนุญาตให้ธนาคารของไต้หวันและจีนตั้งสาขาในดินแดนของอีกฝ่าย รวมทั้งจะขยายการท่องเที่ยวระหว่างกันอีกด้วย
“ขณะนี้โลกกำลังพบกับวิกฤตเศรษฐกิจ และความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้น วิกฤตครั้งนี้อาจร้ายแรงกว่าเมื่อปี 1997 ภายใต้ภาวะเช่นนี้ทั้งจีนและไต้หวันจึงต้องกระชับความสัมพันธ์ด้านการเงินและเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น” เฉิน หยุนหลิน ผู้แทนจากจีนแผ่นดินใหญ่ กล่าว
การบรรลุข้อตกลงครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์อีกครั้ง หลังข้อตกลงครั้งหลักหมายในต้นปี ที่ทั้งสองประเดิมเปิดเที่ยวบินโดยตรง แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่สูง อาทิ เครื่องบินยังต้องไปอ้อมน่านฟ้าของดินแดนที่สามก่อนมาถึงเป้าหมายทำให้เสียเวลาเดินทางมาก และข้อตกลงการท่องเที่ยวก็มีข้อจำกัด จนมีนักท่องเที่ยวจีนไปไต้หวันไม่ถึง 1,000 คน หลังบรรลุข้อตกลงเมื่อต้นปี ขณะที่เศรษฐกิจไต้หวันยิ่งแย่ลง จนคะแนนนิยมประมุขเกาะตกฮวบ
ดินแดนสองจีนระหว่างช่องแคบไต้หวัน ตัดขาดการติดต่อสัมพันธ์โดยตรงตั้งแต่เจียง ไคเช็คแพ้สงครามกลางเมืองจีนเมื่อปี 1949 และหนีมาตั้งรัฐบาลแยกต่างหากที่เกาะไต้หวัน ทั้งทางอากาศทางเรือและการไปรษณีย์ ต้องผ่านดินแดนที่สามก่อนมาถึงเป้าหมาย ทั้งสองยังเผชิญหน้ากันถึงกับจีนขู่จะใช้กำลังเข้ายึดครองไต้หวันหากเคลื่อนไหวอิสรภาพ และความขัดแย้งไต้หวันกลายเป็นสิ่งคุกคามเสถียรภาพในภูมิภาคมากที่สุด
ทางด้านสามหอการค้าใหญ่ คือ หอการค้าสหรัฐ ญี่ปุ่น และยุโรป ต่างยินดีกับความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ โดยบอกว่า การมีเที่ยวบินและเรือระหว่างจีนกับไต้หวัน มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเอเชีย และโลก
อย่างไรก็ตาม ผู้แทนจีน ซึ่งเดินทางถึงนครไทเป ก็ยังต้องเผชิญกับผู้ประท้วงหลายร้อยคนที่สนับสนุนเอกราชของไต้หวัน อย่างไรก็ตามผู้ประท้วงถูกกันให้ออกห่างจากบริเวณที่ประชุม ซึ่งมีตำรวจอารักขากว่า 5,000 นาย
การกำหนดท่าทีความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ ถือเป็นโจทย์สำคัญของประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว ที่อาศัยจุดนี้เอาชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย แต่ถึงแม้ว่าชาวไต้หวันจำนวนมากจะต้องการมีส่วนร่วมกับความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของจีนแผ่นดินใหญ่ แต่อีกส่วนหนึ่งก็กลัวว่าจะถูกจีนกลืนชาติ ทั้งนี้มิต้องพูดถึง กลุ่มสุดขั้วที่สนับสนุนเอกราชไต้หวันและต่อต้านจีนแผ่นดินใหญ่อย่างเต็มที่
หลี่ รุ่ยผิง ผู้ประท้วงวัย 32 ปี บอกว่า นายเฉิน หยุนหลิน มาไต้หวันก่อนเวลาอันควร และประธานาธิบดีหม่า เร่งรีบเกินไปที่จะสานสัมพันธ์กับจีน
“หม่า อิงจิ่ว ต้องเคารพผลประโยชน์ของไต้หวัน และรอบคอบในการดำเนินความสัมพันธ์กับจีน” ผู้ประท้วงบอก
ด้านหน้าโรงแรมหยุนซัน ที่พักของผู้แทนจีน มีการอารักขาอย่างเข้มงวด โดยตำรวจล้อมลวดหนามพร้อมตาข่ายสูง เพื่อป้องกันการขว้างปาสิ่งของใส่คณะผู้แทนจีน
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งสามารถจองห้องพักในชั้นเจ็ดของโรงแรมได้ พร้อมกับแขวนป้ายผ้าข้อความ “โจรคอมมิวนิสต์ ออกไป” นอกจากนี้ ยังมี สส. พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า(ดีพีพี) กลุ่มหนึ่งเรียกร้องให้ จีนถอนขีปนาวุธ ที่เล็งมายังไต้หวัน แถมยังสมทบด้วย สาวกลัทธิ ฝ่าหลุนกง อีกราว 50 คน ที่นั่งสมาธิประท้วงหน้าตึกไทเป 101 สถานที่ประชุมครั้งนี้
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า มีรถแท็กซี่สีเหลืองหลายคน วิ่งไปรอบๆนครไทเป พร้อมกระจายเสียงผ่านลำโพงว่า “ไต้หวันไม่ใช่มณฑลหนึ่งของจีน”