เมลามีนลามถึง แป้งสาลี นายกขอ 2 ปีเคลียร์ปัญหา

เฟิ่งหวงเน็ต - พิษเมลามีนแพร่ไม่หยุด ล่าสุดพบแป้งสาลีปนเปื้อน ส่วนไข่ปนเปื้อนทยอยถูกเก็บ นายกเวินเจียเป่า ขอเวลา 1-2 ปีจัดการปัญหาเบ็ดเสร็จ

จนถึงขณะนี้ มีการตรวจพบไข่ปนเปื้อนเมลามีนใน 3 พื้นที่หลัก คือ ฮ่องกง มณฑลหูเป่ย และเมืองหังโจวมณฑลเจ้อเจียง โดยไข่เหล่านี้มาจาก 4 โรงงานใหญ่ที่ผลิตไข่ส่งไปขายทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่และฝั่งฮ่องกง และล่าสุดยังมีการตรวจพบเมลามีนในแป้ง ที่ส่งออกไปยังประเทศคีร์กีซสถานอีกด้วย ทำให้ความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของสินค้าจีนตกต่ำอย่างยากจะกู้คืน

ทั้งนี้ รัฐบาลฮ่องกงได้สั่งงดนำเข้าไข่จากจีน ส่วนที่แผ่นดินใหญ่หลายมณฑลก็ได้สั่งเก็บไข่ที่โรงงานที่มีปัญหาออกจากชั้นวางจำหน่ายแล้ว อย่างไรก็ตามในบางพื้นที่ เจ้าของร้านหัวใสแอบแปลงร่างไข่ เปลี่ยนฉลากระบุสถานที่ผลิต เป็นไข่ที่ผลิตจากพื้นที่ปลอดภัย

นอกจากนี้ขณะนี้รัฐบาลจีนกำลังตรวจสอบว่า กรณีไข่ปนเปื้อนเมลามีนนี้อย่างเข้มงวด หลังจากมีข่าวว่า รัฐบาลท้องถิ่นได้ทราบว่ามีการปนเปื้อนเมลามีนในไข่ แต่ได้ปกปิดเรื่อง สั่งห้ามให้ข่าวกับสื่อมวลชน จนกระทั่งเรื่องมาแดงขึ้นเมื่อทางการฮ่องกงตรวจพบ

นายกรัฐมนตรีเวินเจียเป่า ให้สัมภาษณ์ระหว่างการเยือนคาซัคสถานว่า รู้สึกเป็นทุกข์กับเรื่องนี้มาก และยอมรับว่าระบบตรวจสอบของทางการมีช่องโหว่ แต่รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะนี้้มีตารางเวลาการทำงานแล้ว และรัฐบาลจะใช้เวลา 1- 2 ปี แก้ไขปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จ

“รัฐบาลจะใช้ความพยายามสูงสุดในการแก้ปัญหา ผมไม่เชื่อว่าภายใน 1-2 ปีจะแก้ปัญหานี้ให้ลุล่วงไม่ได้ แต่ทั้งนี้อาจจะเร็วกว่านี้ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ผมพูด แต่ต้องมีมาตรฐานชัดเจน ในเมื่อรัฐบาลให้ความสำคัญและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด มาตรฐานความปลอดภัยของอาหารจากจีนจะต้องดีขึ้นแน่นอน” นายกเวิน เจียเป่า กล่าว

นายกรัฐมนตรีจีน ยังเปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมการ 3 ขั้นตอน เพื่อแก้ปัญหาความปลอดภัยในอาหาร ดังนี้

หนึ่ง รัฐบาลจะจัดการอย่างจริงจังกับเรื่องนี้ โดยได้สั่งฟ้องทั้งบริษัทผู้ผลิตอาหารปนเปื้อน และเจ้าหน้าที่รัฐผู้ควบคุม ต่อศาล โดยมีเป้าหมายเพื่อสั่งสอนให้ผู้เกี่ยวข้องมีความรับผิดชอบ

สอง รัฐบาลจะสร้างระบบควบคุมความปลอดภัยในอาหารอย่างครบวงจร ตั้งแต่แปลงปลูกถึงโต๊ะอาหาร ตั้งแต่กระบวนการผลิต แปรรูป ขนส่ง วางจำหน่าย โดยแต่จะขั้้นตอนจะมีผู้ควบคุม และกฎหมายซึ่งจะกำหนดความรับผิดชอบไว้อย่างชัดเจนมากขึ้น

สาม จัดทำกฎหมายความปลอดภัยในอาหารที่ชัดเจนมากขึ้น โดยรัฐสภาจีนเพิ่งแก้ไขและผ่านกฎหมาย “ความปลอดภัยในอาหาร” ซึ่งจะเป็นแม่บทในการจัดการเรื่องนี้

“ผมรู้ดีว่า กรณีอาหารปนเปื้อนครั้งนี้สร้างความเสื่อมเสียให้กับจีนอย่างมาก ต่อไปนี้เราจะจัดการให้อาหารมีความปลอดภัย ไม่เพียงแต่ตามมาตรฐานภายในประเทศ แต่จะทำให้ไปถึงมาตรฐานการส่งออก รัฐบาลจีนขอให้คำมั่นว่าจะจัดการให้ประชาชนทั้ง 13 ล้านคนและอีกทั่วโลกมีความมั่นใจในความปลอดภัยด้านอาหารให้ได้” เวิน เจียเป่ากล่าว