เอเจนซี่ - องค์การสหประชาชาติ ได้ออกรายงานชิ้นล่าสุดวันนี้ เกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหารในจีน โดยเตือนให้รัฐบาลจีนเร่งออกกฎหมายที่ทันสมัย ที่ระบุชัดเจนเกี่ยวกับอำนาจ ความรับผิดชอบ และบทลงโทษเรื่องความปลอดภัยในอาหาร เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในวงการการค้าโลก
“กฎหมายเรื่องอาหารของจีนที่ใช้อยู่ทุกวันนี้มีหลายฉบับ และหลักปรัชญาที่ว่ารัฐบาลจะรับผิดชอบในทุกๆเรื่องนั้นล้าสมัยไปแล้ว เพราะต้องให้ผู้ผลิตอาหารรับผิดชอบด้วย” นายจอร์เกน ซูทท์ ผู้อำนวยการแผนกความปลอดภัยอาหาร ประจำองค์การสหประชาชาติแถลง
รายงานของสหประชาชาติครั้งนี้ ออกมาในช่วงที่กระแสเรื่องนมปนเปื้อนเมลาลีนจากจีนยังไม่จางหายไป เพราะ ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขของเกาหลีใต้ เพิ่งประกาศในวันเดียวกันว่า ไข่ผง ที่มาจากจีนปนเปื้อนเมลามีน และ ฟิลิปปินส์ ก็ตรวจพบว่า ขนมปังกรอบ "Lotte B+W KOALA" และ "Lotte Chocolate Snack KOALA" ปนเปื้อนเมลามีน รวมทั้ง องค์การอาหารและยาของไทย ก็เพิ่งสั่งเก็บ ขนมปังกรอบยี่ห้อ “จูลี่” ที่ผลิตจากมาเลเซีย
ในรายงานขององค์การสหประชาชาติฉบับนี้ ยังระบุว่า ระบบการควบคุมความปลอดภัยในอาหารของจีนเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวงและหน่วยงาน ทำให้การสื่อสารล่าช้า และหากมีการระบาดของสารพิษขึ้นก็จะรับมือได้ช้าเช่นกัน โดยสหประชาชาติแนะนำว่าจีนต้องจีนทำระบบที่ประกันความปลอดภัยของอาหารจากแหล่งเพาะปลูก ถึงโต๊ะอาหาร และที่สำคัญ คือต้องให้ผู้ผลิตอาหาร รับผิดชอบด้วย
“ทางการจีนต้องให้การศึกษากับบริษัทผู้ผลิตอาหาร เกี่ยวกับบทบาทในการสร้างความมั่นใจให้กับตลาดทั้งในและต่างประเทศ” รายงานความปลอดภัยของอาหารที่ออกโดยองค์การสหประชาชาติระบุ