ไต้หวันเครียดบินตรงไม่ช่วยหนุนท่องเที่ยว วิกฤตศก.โลกดันจีนใหญ่หนีเที่ยวไทยแทน

เอเอฟพี – ความหวังบินตรงเหมาลำระหว่างจีน-ไต้หวันช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจ "จีนเล็ก" อาจเป็นหมัน เนื่องจากวิกฤตการเงินโลก ความผันผวนทางการเมืองระดับท้องถิ่น และความยุ่งยากในการขอวีซ่าเป็นเหตุ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่หันมาซบแหล่งท่องเที่ยวราคาประหยัดและไม่ยุ่งยากอย่างไทยแทน

ตั้งแต่ปี 1949 ที่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ได้ยึดครองบัลลังก์อำนาจเหนือจีน บีบให้พรรคก๊กมินตั๋งนำโดยเจียงไคเช็กในขณะนั้นถอยร่นมาตั้งรัฐบาลใหม่ที่เกาะไต้หวันเป็นต้นมา ไต้หวันก็ตีกรอบการค้าและการท่องเที่ยวกับแผ่นดินใหญ่ไว้อย่างเข้มงวด กระทั่งเมื่อหม่า อิงจิ่ว ซึ่งมีนโยบายเป็นมิตรกับรัฐบาลปักกิ่ง ได้ขึ้นนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีคนใหม่แทนเฉิน สุยเปี่ยนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ความสัมพันธ์อันตึงเครียดนี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

รัฐบาลของหม่าได้รื้อฟื้นการเจรจากับปักกิ่งในเดือนมิถุนายน ซึ่งนำไปสู่การเปิดศักราชใหม่ของเที่ยวบินบินตรงเหมาลำช่วงสุดสัปดาห์ระหว่างสองฟากช่องแคบ และรัฐบาลปักกิ่งก็ได้อนุญาตชาวจีนให้เดินทางมายังเกาะเพิ่มขึ้น 3 เท่าเป็น 3,000 คนต่อวันในเดือนถัดมา โดยรัฐบาลไต้หวันเชื่อว่านักเดินทางจีนที่มีจำนวนมากขึ้นนั้นจะนำเงิน 60,000 ล้านเหรียญไต้หวัน (1,870 ล้านเหรียญสหรัฐ) ต่อปีมาสู่เกาะ และเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจด้วย

ทั้งที่ความสัมพันธ์ระหว่างแผ่นดินใหญ่และไต้หวันเริ่มมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว แต่นับจากเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมาจำนวนผู้ที่เดินทางมาจากจีนนั้นเฉลี่ยไม่ถึง 300 คนต่อวันด้วยซ้ำ และเพิ่มขึ้นเท่าตัวเฉพาะในช่วงวันหยุดสัปดาห์ทองวันชาติจีน (1 ต.ค.) เท่านั้น ตามข้อมูลของรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตการณ์อุตสาหกรรมท่องเที่ยวต่างแสดงออกว่าไม่แปลกใจกับปรากฏการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด

“ลูกค้าของเราหลายคนไม่อยากไปไต้หวัน เพราะเขารู้มาว่าการทำเรื่องขออนุญาตเข้าไต้หวันนั้นต้องใช้เวลานานเดือนกว่า” ไกด์ท่องเที่ยวจาเมืองเซินเจิน มณฑลกว่างตงทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีนเผย โดยไกด์ทัวร์แซ่สีว์กล่าวว่า “นักท่องเที่ยวเบนเข็มไปเที่ยวที่อื่น อย่างเช่น ประเทศไทย ซึ่งค่าใช้จ่ายถูกกว่าแล้วก็ใช้เวลาขอวีซ่าเพียง 3 วันเท่านั้น”

ทั้งนี้ที่ผ่านมาแผ่นดินใหญ่ออกกฎระเบียบควบคุมการเดินทางไปไต้หวันมากมาย แต่ปัจจุบันปักกิ่งเพียงอนุญาตให้ประชาชนจาก 13 มณฑล/เมืองสามารถขออนุญาตเข้าไต้หวันได้เท่านั้น ขณะที่มีบริษัททัวร์ในแผ่นดินใหญ่เพียง 33 รายเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ทำทัวร์ไปเที่ยวไต้หวัน

ผู้ประกอบการบริษัททัวร์ยังกังวลใจเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ที่จาง หมิงชิง รองประธานสมาพันธ์ความสัมพันธ์ระหว่างช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้แทนจากจีนเดินทางมาเยือนไต้หวัน แต่กลับถูกกลุ่มผู้สนับสนุนเรียกร้องเอกราชของไต้หวันกระโดดเข้าชกจนล้มคว่ำว่า อาจจะฉุดให้นักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่น้อยลง

“เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไต้หวันในระยะสั้น” อีริก จาง ซีอีโอของสมาคมนักท่องเที่ยวแห่งไต้หวันกล่าว

นอกจากพิษการเมืองแล้ว อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก ซึ่งน่าจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ประชาชนล้มเลิกหรือเปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวช่วงวันหยุด

“ค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวไต้หวันนั้นสูงพอๆ กับไปเที่ยวยุโรปหรืออเมริกาเลยทีเดียว และการท่องเที่ยวก็มีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำ” อิแวน หลิน ผู้จัดการบริษัทไชน่า ทราเวล เซอร์วิส (ไต้หวัน) ซึ่งเป็นเอเย่นชั้นนำในการให้บริการนักท่องเที่ยวจีน

ตามข้อมูลของบริษัทท่องเที่ยวระบุว่า โปรแกรมท่องเที่ยวไต้หวัน 8 วันสนนราคาอยู่ระหว่าง 7,000-10,000 หยวน (35,000-50,000 บาท) ขณะที่ทริปท่องเที่ยวประเทศไทย 7 วันราคาประมาณ 1,800 หยวน (9,000 บาท) เท่านั้น

อย่างไรก็ตามผู้จัดการบริษัทท่องเที่ยวรายหนึ่งยังเชื่อมั่นว่ารัฐบาลภายใต้การนำของหม่า อิงจิ่วจะสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยการกระชับสัมพันธ์กับแผ่นดินใหญ่มากขึ้น แต่สำหรับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันนี้ “ผมคิดว่ามันก็ยังอยู่นอกเหนือการควบคุมของเขา”