xs
xsm
sm
md
lg

วิกฤตเศรษฐกิจโลกกระทบ บริษัทจีนมีสิทธิ์ล้ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ดิ อีโคโนมิสต์ - ท่ามกลางวิกฤตการเงินโลก ที่บริษัทชาติตะวันตกพากันล้มละลายเป็นทิวแถว ทั่วโลกต่างจับตามาที่ จีน โดยหวังว่าจีนจะเป็นที่พึ่งยามยาก ช่วยผยุงเศรษฐกิจโลก แต่แท้จริงแล้วบริษัทจีนจำนวนไม่น้อยก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ เพียงแต่ไม่ได้มีหลักฐานปรากฏอย่างชัดเจนเท่านั้น

ถึงแม้ว่าในปีนี้จะมีบริษัทจีนเพียงแค่ ไม่กี่พันแห่งยื่นขอล้มละลาย แต่ความจริงแล้วมีธุรกิจอีกจำนวนมากต้องปิดตัวลงอย่างเงียบๆ โดยเฉพาะที่ฐานการผลิตเพื่อการส่งออกใหญ่ที่มณฑลกว่างตง ซึ่งขณะนี้ผู้ผลิตกำลังประสบภาวะยากลำบากจากยอดสั่งสินค้าที่ลดลง, ราคาวัตถุดิบที่แพงขึ้น และกฎหมายแรงงานที่เข้มงวดขึ้น โดยตัวเลขธุรกิจที่ปิดตัวเองลงไปนี้ไม่ได้ปรากฏชัดเหมือนบริษัทตะวันตกที่ต้องเข้าสู่กระบวนการชำระบัญชีที่ชัดเจน แต่ธุรกิจเหล่านี้อาจทิ้งไว้เพียงประตูหน้าที่ปิดตายเท่านั้น

การปิดกิจการของบริษัทจีนนั้นมี 3 ทางเลือก หนึ่ง คือตกลงกับลูกจ้าง คู่ค้า และหน่วยงานราชการเพื่อขอปิดกิจการ ,สอง คือยื่นขอล้มละลายต่อศาล หรือสุดท้าย ปิดตัวเองหนีไปเฉยๆ

เจ้าของโรงงานแห่งหนึ่ง ที่เมืองเซินเจิ้น ซึ่งต้องการปิดกิจการ บอกว่า ทางเลือกแรกนั้นยุ่งยากมาก เพราะต้องต่อรองกับลูกจ้างเพื่อจ่ายค่าชดเชย และยังต้องยื่นเรื่องกับหน่วยงานราชการอีกนับสิบแห่ง ทั้ง กระทรวงพาณิชย์, สรรพากร, กระทรวงแรงงาน แม้แต่ตำรวจดับเพลิง ก็ยังต้องแจ้งให้ทราบ ซึ่งแต่ละหน่วยงานก็มีขั้นตอนยุ่งยากวุ่นวาย แถมบางครั้งยังต้องเจอะกับซับพลายเออร์ที่เรียกร้องขอเงินคืนอีก ส่วนการยื่นเรื่องต่อศาลนั้นก็วุ่นวายพอกัน

“ทุกฝ่ายก็ต้องการเงินทั้งนั้น ดังนั้นจึงมีบริษัทจำนวนไม่น้อยที่เลือกจะปิดตัวเองหายไปในชั่วข้ามคืน”  เจ้าของโรงงานดังกล่าวบอก

จีน เพิ่งออกกฎหมายล้มละลาย เมื่อปีที่แล้ว แต่กฎหมายนี้ก็ยังไม่สมบูรณ์และไม่ถูกใช้มากนัก แม้แต่บริษัทที่ยื่นขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลแล้วก็ยังลังเลที่จะใช้กฎหมายล้มละลาย

เฮเลนน่า หวง จากบริษัทกฎหมาย คิกแลนด์ แอนด์ เอลลิส บอกว่า ในอดีต เจ้าของบริษัทยังจะดำเนินธุรกิจไปจนเหลือเงินหยวนสุดท้าย ทำให้แทบจะไม่เหลือเงินสำหรับการฟื้นฟูกิจการแล้ว อย่างไรก็ตาม กฎหมายล้มละลายใหม่นี้ ไม่ได้ให้หลักประกันว่า เจ้าหนี้จะได้รับสิทธิ์ก่อนในทรัพย์สินของบริษัทที่ยื่นฟื้นฟูกิจการ ซึ่งนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้บรรดาเจ้าหนี้ไม่กล้าที่จะให้โอกาสครั้งที่สองกับบริษัทที่ยื่นขอฟื้นฟูกิจการ ดังนั้นบริษัทที่ต้องการขอฟื้นฟูกิจการหลายแห่งจึงเลือกที่จะเจรจาตกลงกันอย่างไม่เป็นทางการ มากกว่าจะเลือกใช้กฎหมายล้มละลายฉบับใหม่นี้

ส่วนความช่วยเหลือจากภาครัฐนั้น ก็เลิกหวังไปได้เลย เพราะ มีแต่บริษัทขนาดใหญ่เท่านั้น ที่ทางรัฐอาจยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เพราะกลัวว่าหากปล่อยให้ล้มไปอาจกระทบกับการจ้างงานจำนวนมาก หรือส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

ส่วนทางด้านตลาดหลักทรัพย์ก็ยังคงคึกคัก ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
อลัน ถัง ผู้แทนจากบริษัทที่ปรึกษา แกรนท์ ทอนทัน ให้ข้อมูลว่า มีบริษัทมากกว่า 30 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จีน เข้าข่ายมีปัญหาแต่ถ้าหากบริษัทเหล่านี้เข้าสู่ภาวะล้มละลายภายใต้กฎหมาย ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ถือหุ้น หรือเจ้าหนี้จะได้ส่วนของตัวเองอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะบริษัทจำนวนมาก ใช้การจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แบบแบบผ่านตัวแทน หรือ backdoor listing ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ก็ยังเป็นแหล่งระดมทุนที่หอมหวนต่อไป
บริษัทที่ดูมั่นคง อาจล้มได้ชั่วข้ามคืน

กำลังโหลดความคิดเห็น