xs
xsm
sm
md
lg

TYONG เร่งทวงหนี้ที่ค้างชำระ เหตุตั้งสำรองสูญถึง 5.4 พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

TYONG เร่งทวงหนี้กับลูกหนี้ที่ค้างชำระ 5,679 ล้านบาท โดยลูกหนี้สองรายวงเงินเกือบ 3 พันล้าน อยู่ระหว่างฟื้นฟูกิจการ และศาล นัดไต่สวนปลายเดือน ก.ย.นี้ ส่วนลูกหนี้วงเงิน 2 พันกว่าล้านอยู่ระหว่างดำเนินคดีรวมทั้งการฟ้องร้องล้มละลาย

นายสุธรรม ศิริทิพย์สาคร กรรมการ บริษัท ธนายง จำกัด (มหาชน) ( TYONG) แจ้งว่า ตามที่บริษัทฯให้กู้ยืมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ตั้งแต่ปี 33 ถึงปี 39 ค้างชำระ 5,679 ล้านบาท และมีการตั้งค่าเผื่อหนี้สูญ 5,391 ล้านบาท โดยปัจจุบันยังไม่ได้รับชำระหนี้คืน นั้นบริษัทฯ ได้ดำเนินการติดตามให้ชำระหนี้ ดังนี้

1. ในช่วงเดือนมกราคม 2550 บริษัทฯ ได้ดำเนินการออกจดหมายทวงหนี้แก่ลูกหนี้เงินให้กู้ยืมแล้วบางส่วน 2,983 ล้านบาท และเมื่อครบกำหนด 30 วัน บริษัทฯ ได้ออกจดหมายทวงถามครั้งที่สองแล้วปรากฏว่ายังไม่ได้รับชำระหนี้ และมีลูกหนี้รายหนึ่งที่มียอดค้างชำระ 2,647 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯพิจารณาจากงบการเงินของลูกหนี้แล้ว เห็นว่าไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ แต่มีช่องทางในการฟื้นฟูกิจการ

บริษัทฯ จึงได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ดังกล่าวต่อศาลล้มละลายกลาง แต่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 50 ต่อมาวันที่ 23 พฤศจิกายน 50 มีเจ้าหนี้สองรายได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้รายดังกล่าวและศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ และนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 31 มีนาคม 51 นั้น ในวันดังกล่าวมีเจ้าหนี้รายหนึ่งได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาข้อกฏหมายเรื่องการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ ศาลได้วินิจฉัยและมีคำสั่งยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 30 เมษายน 51 ดังนั้น เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 51 ลูกหนี้จึงยื่นคำร้องขอฟื้นฟูด้วยตนเอง และศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งยกร้องขอฟื้นฟูกิจการ ต่อมาเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 51 ลูกหนี้ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการด้วยตนเองอีกครั้ง โดยศาลนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 18 สิงหาคม 51

ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหนี้สถาบันการเงินของลูกหนี้รายดังกล่าวยื่นฟ้องล้มละลายลูกหนี้ด้วยมูลหนี้ 27 ล้านบาท เมื่อเดือน มกราคม 49 ซึ่งศาลได้นัดเลื่อนอ่านคำพิพากษาไปในวันที่ 16 ธันวาคม 51 นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหนี้อีกรายหนึ่งยื่นฟ้องล้มละลายลูกหนี้รายดังกล่าว ในเดือนตุลาคม 2550 มีกำหนดนัดสืบพยานในวันที่ 30 กรกฎาคม 51 โดยในวันดังกล่าวลูกหนี้ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว และศาลเลื่อนการสืบพยานเจ้าหนี้ไปเป็นวันที่ 29 กันยายน 51

2. สำหรับลูกหนี้รายหนึ่งที่มียอดเงินค้างชำระจำนวน 679 ล้านบาท ลูกหนี้ดังกล่าวอยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ และบริษัทฯ ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน49 นั้น ต่อมาในวันที่ 23 พฤษภาคม 50 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีคำสั่งอนุญาตให้บริษัทฯ ได้รับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการเป็นเงินทั้งสิ้น 678 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7 ของต้นเงิน 541 ล้านบาทนับแต่วันถัดจากวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการจนกว่าจะได้รับชำระเสร็จ ขณะนี้อยู่ระหว่างปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูกิจการ ขณะเดียวกันเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้รายดังกล่าวนี้ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อขออนุญาตอุทธรณ์คำสั่งเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งศาลฎีกาได้มีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้อุทธรณ์ได้ ต่อมาเจ้าหนี้ได้ยื่นขอถอนอุทธรณ์ ปัจจุบัน ศาลฎีกาได้มีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้ถอนอุทธรณ์แล้วเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2551 ซึ่งจะทำให้แผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้รายดังกล่าวสามารถดำเนินการต่อไปได้

3. ลูกหนี้เงินให้กู้ยืมที่เหลือ 2,017 ล้านบาท ที่มีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ บริษัทฯ ได้ติดตามลูกหนี้สองรายที่มียอดค้างชำระรวม 2,013 ล้านบาท หลังจากที่บริษัทฯ ได้ดำเนินคดีไปพร้อมกับการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับลูกหนี้รายดังกล่าวมาระยะหนี่งแล้ว บริษัทฯ กำลังอยู่ในระหว่างพิจารณาแนวทางการดำเนินคดีอื่น ๆ อาทิ เช่น การดำเนินกระบวนการฟ้องร้องล้มละลายควบคู่กันไปด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น