ศาลยกฟ้อง คดี “เปมิกา” ฟ้องหมิ่น “พี่ชาย-เมีย หมอเผ่า” ให้สัมภาษณ์รายการจับเขาคุย ช่อง 3 แฉวางยาหมอเผ่า เหตุฝ่าย “เปมิกา” ประวิงเวลาเลื่อนคดีไม่ยอมขึ้นเบิกความฐานะพยานโจทก์ตามหน้าที่ ศาลใช้อำนาจ ตาม ป.วิอาญา สั่งยกฟ้อง “เมียหมอเผ่า” ขอบคุณศาลให้ความเป็นธรรม เผย หมออาการดีขึ้นแล้ว ขณะที่ “น้องเป” ระบุ ไม่คิดประวิงเวลา แต่สนใจคดีถูกฟ้องฉ้อโกงมากกว่า รอตัดสินใจอุทธรณ์ต่อหรือไม่
วันนี้ (7 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.45 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 914 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.1903/2550 ที่ น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต นักศึกษาปริญญาโท จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อดีตเพื่อสาวคนสนิท นพ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ เจ้าของสถาบันกวดวิชาชื่อดัง “แอพพลายส์ฟิสิกส์” เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นพ.ประกิตพันธุ์ และนางอลิสา ทมทิตชงค์ พี่ชาย และภรรยา นพ.ประกิตเผ่า เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐาน ร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 กรณีระหว่างวันที่ 15-21 เม.ย.2550 นพ.ประกิตพันธุ์ และ นางอลิสา ร่วมกันให้สัมภาษณ์กับนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เพื่อบันทึกเสียง บันทึกภาพลงในโสตวัสดุโทรทัศน์ แพร่ภาพออกอากาศสถานีวิทยุโทรทัศน์ ช่อง 3 รายการ “จับเข่าคุย” ว่า น.ส.เปมิกา เป็นคนวางยา นพ.ประกิตเผ่า
โดยวันนี้ นพ.ประกิตพันธุ์ และ นางอลิสา จำเลย เดินทางมาพร้อมกับทนายความและผู้ติดตาม 2 คน ขณะที่ น.ส.เปมิกา โจทก์ ก็เดินทางมาพร้อมการ์ด และเสมียนทนายความ เพื่อร่วมฟังคำพิพากษาด้วย
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า ระหว่างชั้นพิจารณาเพื่อสืบพยาน ตัวโจทก์ ได้แถลงขอเลื่อนนัดสืบพยานหลายครั้งโดยอ้างเหตุป่วย มีอาการเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ โดยนัดสืบพยานเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ทนายความโจทก์ ยังขอเลื่อนนัดอ้างว่าโจทก์ป่วย ขณะที่ทนายความจำเลย ระบุว่า การที่โจทก์ขอเลื่อนนัดเป็นการประวิงเวลาคดี ซึ่งในวันนัดสืบพยานคดีหมายเลขดำที่ อ.4543/2550 (คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.เปมิกา เป็นจำเลย ในความผิดฐานฉ้อโกง นพ.ประกิตพันธุ์) โจทก์ยังสามารถมานั่งฟังการสืบพยานได้ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น.
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า พฤติการณ์ที่โจทก์ขอเลื่อนนัดสืบพยานมีลักษณะประวิงเวลา จึงงดสืบพยาน ขณะที่คดีนี้จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ซึ่งการฟ้องคดีโจทก์มีหน้าที่นำพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักมั่นคงมานำสืบเพื่อแสดงว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดจริงตามฟ้องหรือไม่ เพื่อให้ศาลมีคำพิพากษา แต่เมื่อคดีนี้โจทก์ไม่ได้นำสืบพยาน ที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดหรือไม่ จึงพิพากษายกฟ้อง ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227
ภายหลังศาลยกฟ้องแล้ว นางอลิสา ภรรยา น.พ.ประกิตเผ่า กล่าวว่า ตนต้องขอขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรม ส่วน น.พ.ประกิตเผ่านั้น ขณะนี้อาการสบายดีแล้ว
สำหรับคดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พิพากษาให้ น.ส.เปมิกา ชดใช้เงินจำนวน 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี คดีที่ นางอลิสา ยื่นฟ้องคดีแพ่ง ฐานมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับสามี นางอลิสา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการจ่ายเงินเนื่องจากฝ่ายจำเลยใช้สิทธิในการยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดี
ด้าน น.ส.เปมิกา กล่าวว่า ตนมีเวลาคิดอีก 30 วัน ในการตัดสินใจว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ แต่ยืนยันว่าการที่ตนไม่ได้ขึ้นเบิกความในคดีนี้ ไม่ได้ต้องการประวิงเวลา แต่เนื่องจากตนให้ความสำคัญกับคดีที่ถูกฟ้องฐานฉ้อโกงมากกว่า ส่วนคดีที่ถูกศาลเยาวชนและครอบครัวกลางพิพากษาให้ชดใช้เงิน 2 ล้านบาทแก่นางอลิสานั้น ตอนนี้ยังไม่มีการชดใช้เงินดังกล่าว เนื่องจากทุกคดีที่ฝ่ายตนและฝ่ายนางอลิสา ฟ้องร้องมีความเกี่ยวเนื่องกัน จึงต้องฟังผลให้ถึงที่สุดก่อน ขณะที่มีการยื่นอุทธณ์คดีไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีที่ตระกูลทมทิตชงค์ ฟ้องร้อง น.ส.เปมิกา นั้น มีหลายคดีซึ่งอยาระหว่างการพิจารณาของศาลอาญา ประกอบด้วย 1.คดีหมายเลขดำ อ.2026/2550 ที่ น.ส.เปมิกา ยื่นฟ้อง น.พ.ประกิตพันธุ์ และนางอลิสา ทมทิตชงค์ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทฯ สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 3-4 มี.ค.50 มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทำนองว่า น.ส.เปมิกา มีส่วนเกี่ยวข้องกับสารอีเฟรดรีน ที่พบในร่างกายของ นพ.ประกิตเผ่า ใช้จิตวิทยาหมู่หลอกเอาเงินจำนวน 40 ล้านบาท ไปจาก นพ.ประกิตเผ่า
2.คดีหมายเลขดำที่ อ.1973/2550 นางเพลินจิต และ นพ.ประกิตพันธุ์ มารดา และพี่ชาย นพ.ประกิตเผ่า เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.เปมิกา เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาท,แจ้งความเท็จเพื่อให้บุคคลอื่นต้องรับโทษทางอาญาและเบิกความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172, 173, 174, 177 และ 326 กรณีวันที่ 20 ก.พ.- 9 มี.ค.2550 จำเลยใส่ความโจทก์ทั้งสองด้วยข้อความอันเป็นเท็จต่อ พ.ต.ท.ฐิติเดช อินทรแป้น สารวัตรสอบสวน สน.บางซื่อ ว่า น.พ.ประกิตเผ่า มีปัญหา กับครอบครัว ทั้งมารดา พี่ชาย และภรรยา เกี่ยวกับการบริหารสถาบันกวดวิชา และทำให้มารดาและ พี่ชายวางแผนหลอกเอาตัวไปคุมไว้ที่ โรงพยาบาลศรีธัญญา เพื่อให้เป็นคนมีอาการโรคจิต และต่อมาวันที่ 9 มี.ค.จำเลยได้เบิกความเท็จดังกล่าวต่อศาลอาญา
3.คดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ก.ย.51 ให้ น.ส.เปมิกา ชดใช้เงินจำนวน 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ให้กับนางอลิสา ภรรยา นพ.ประกิตเผ่า ในคดีแพ่งที่ยื่นฟ้องกล่าวว่า น.ส.เปมิกา มีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับสามี ว่า ขณะนี้ได้ขอคัดคำพิพากษาจากศาลเยาวชน
4.คดีหมายเลขดำที่ อ.4543/2550 ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.เปมิกา กับพวกรวม 4 คน ซึ่งเป็นเพื่อน น.ส.เปมิกา เป็นจำเลย ในความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์สินของบุคคลอื่น กรณีร่วมกันฉ้อโกง นพ.ประกิตเผ่า เป็น รถยนต์โตโยต้าคัมรี่ รวมทั้งเงินสดและทรัพย์สินอื่น มูลค่าหลายล้านบาท