บลูมเบิร์ก - แบล็กสโตน กรุ๊ป เตรียมก้าวสู่ตลาดจีนเป็นครั้งแรก ทุ่มเงิน 600 ล้านเหรียญสหรัฐ ซื้อหุ้น China National Blue star Group ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์รายใหญ่ของจีน
แบล็กสโตน ผู้จัดการกองทุนขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจากสหรัฐอเมริกา ได้ตกลงที่จะเข้าซื้อหุ้นร้อยละ 20 จาก China National Chemical Corp. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบลูสตาร์ แต่ทั้งนี้ผู้เกี่ยวข้องต่างๆปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลง จนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในสัปดาห์หน้า
แบล็กสโตน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่นิวยอร์กต้องแข่งขันกับคาร์ไลน์ กรุ๊ป และกลุ่มทีพีจี สองกงอทุนขนาดยักษ์ที่้ต่างเร่งขยายตลาดในจีนด้วยมูลค่าเงินทุนหลายล้านดอลลาห์เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังรัฐบาลจีนเริ่มเข้มงวดกับการลงทุนของต่างชาติที่เริ่มจะเข้ามาถือหุ้นในรัฐวิสาหกิจที่สำคัญตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน ทำให้กองทุนต่างชาติต้องหันไปซื้อหุ้นในบริษัทเอกชนขนาดเล็กกว่าแทน
วินเซนท์ พาน ผู้บริหารของไดเวอร์ซุส อินเวสเมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาให้กองทุนจำนวนมาก ให้ความเห็นว่า "การลงทุนครั้งนี้เป็นเรื่องที่ดี เพราะบริษัทดังกล่าวก็เป็นวิสาหกิจของรัฐ และมีการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดี" โดยเขายังบอกว่า แบล็กสโตนได้เริ่มเข้าไปหาส่วนแบ่งที่ใหญ่ขึ้นในตลาดจีนแล้ว หลังจากพบกับอุปสรรคมานาน
แต่ผู้เกี่ยวข้องโดยตรงทั้ง จอห์น ฟอร์ด โฆษกของแบล็กสโตนในนิวยอร์ก ได้ปิดโทรศัพท์มือถือ และ สี หยูซิ่น เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานของไชน่า บลูสตาร์ในปักกิ่งก็ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น
ดีลมูลค่า 600 ล้านเหรียญสหรัฐนี้จะรวมเงินกู้จำนวน 100 ล้านเหรียญ แต่หากในปีนี้บลูสตาร์ทำผลกำไรได้ตามเป้าหมายในระดับหนึ่ง เงินกู้นี้ก็จะถูกยกเลิก
แบล็กสโตน ได้เปิดสำนักงานในฮ่องกงเมื่อเดือนมกราคม 2007 โดยว่าจ้าง แอนโทนี่ เหลียง อดีตรัฐมนตรีคลังฮ่องกง ให้ช่วยบุกเบิกตลาดจีน ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในโลก ซึ่งแอนโทนี่ เหลียง เคยสร้างผลงานในดีลใหญ่ 2 ดีล คือ การขายหุ้น 9.4% ของแบล็กสโตนให้กับ nation's sovereign wealth fund และการเข้าซื้อหุ้นมูลค่า 3 พันล้านเหรียญของบริษัท บาร์คเลย์ โดยธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งจีน
ในเดือนกันยายน 2007 เสิ่นหยาง เคมิคอล อินตัลตรี บริษัทลูกของบลูสตาร์ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นว่า แบล็กสโตน จะแต่งตั้งให้ แอนโทนี่ เหลียง และ เบน เจนกิ้น หัวหน้าของกองทุนในเอเชียแปซิฟิค เข้าไปนั่งเป็นกรรมการในบลูสตาร์ และในสัปดาห์นี้ แบล็กสโตน จะจ้างธนาคาร 12 แห่ง เช่น เลย์แมน บราเธอร์ และ HSBC มาเป็นที่ปรึกษาในการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้