เอเอฟพี – มหาเศรษฐีพันล้านเม็กซิกันกระตุ้นจีนเป็นผู้นำในการช่วย กอบกู้วิกฤตการเงินของสหรัฐฯ และแนะว่าตลาดหุ้นทั่วโลกควรมีกฎระเบียบควบคุมที่ดีกว่าในปัจจุบัน
“ ตอนนี้จีนเป็นชาติสำคัญมากที่สุดในการมีส่วนช่วยรับผิดชอบวิกฤตการณ์นี้”
คาร์ลอส สลิม บุคคลผู้ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของโลก ออกมาให้ความเห็น
“ จีนมีสภาพคล่องมหาศาล มีแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ แถมยังเกินดุลบัญชี และมีการไหลเข้ามาของเงินทุนมากมายอีกด้วย”
“มีวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบในระบบการเงินโดยรวม และปัญหาก็คือทุกสิ่งทุกอย่างเชื่อมถึงกันหมด”
อภิมหาเศรษฐีผู้นี้ระบุว่าวิกฤตการเงินที่สหรัฐฯกำลังประสบถือว่าเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตตลาดหุ้นวอลล์สตรีตเมื่อปี 2472 พร้อมกับเรียกร้องให้มีการปรับแก้ไขกฎระเบียบในตลาดการเงินทั่วโลก
“ไม่ต้องออกกฎเพิ่ม แต่ทำให้ดีขึ้นไม่ต้องวางระเบียบข้อบังคับเพิ่ม แต่ทำให้ระเบียบข้อบังคับดีขึ้น”
นอกจากนั้น เขายังกล่าวว่าชาติในแถบละตินอเมริกา และชาติกำลังพัฒนาอาจช่วยเหลือสหรัฐฯ ได้ด้วยเช่นกัน
“ในอดีต ประเทศพัฒนามีเงินสำรองและให้เงินแก่ชาติกำลังพัฒนา ขณะที่ทุกวันนี้ ประเทศพัฒนาโดยเฉพาะสหรัฐฯ นั้น กำลังได้รับเงินด้วยวิธีการต่าง ๆ จากชาติกำลังพัฒนา”
สลิมมีทรัพย์สินราว 60,000 ล้านดอลลาร์ จากข้อมูลของฟอร์บส์ โดยกิจการของเขามีมากมายถึงราวร้อยละ 6 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของเม็กซิโก
สลิมเป็นบุตรของผู้อพยพชาวเลบานอน เขามีทรัพย์สินครั้งแรกเมื่อปี 2533ด้วยการซื้อกิจการโทรศัพท์ “เทเลโฟนอส เดอ เม็กซิโก หรือเทลเม็กซ์ภายใต้การทำสัญญาแปรรูปรัฐวิสาหกิจฉบับหนึ่ง
นอกจากนั้น เมื่อเดือนธันวาคม บริษัท อเมริกา โมวิล ของสลิมยังบรรลุสัญญากับบริษัทยาฮู เพื่อให้บริการอินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือแก่16ประเทศในย่านละตินอเมริกา และแคริบเบียน
สลิมยังปฏิเสธให้ความเห็นว่าผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนไหนดีกว่ากัน เพียงแต่ทิ้งท้ายว่า “คนที่ดีที่สุดจะต้องเป็นคนที่ฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้เร็วที่สุด”