บลูมเบิร์ก – บริษัทเบิร์กไชร์ แฮธาเวย์ ของมหาเศรษฐีพันล้าน วอร์เรน บัฟเฟตต์ ตกลงควักกระเป๋า 1,800 ล้านเหรียญฮ่องกง (231 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อซื้อหุ้นย่อยในบริษัทผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่สุดของจีน “BYD”
โดยบริษัทมิดอเมริกัน เอ็นเนอร์จี โฮลดิ้งส์ ซึ่งเบิร์กไชร์ แฮธาเวย์ถือหุ้นอยู่ถึง 87.4% จะซื้อหุ้น 225 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 9.9% ของบริษัทแบตเตอรี่จีนซึ่งมีฐานอยู่ที่เมืองเซินเจิ้น โดยนักวิเคราะห์มองว่ามิดอเมริกันนั้นเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจของ BYD มาก ทั้งที่ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้กำไรสุทธิของบริษัทจีนตกลง 7% มาอยู่ที่ 596 ล้านหยวน (87 ล้านเหรียญสหรัฐ) จาก 641 ล้านหยวน เนื่องจากการแข่งขันในตลาดโทรศัพท์มือถือและรถยนต์ที่ดุเดือด
อย่างไรก็ตาม ข่าวการลงทุนดังกล่าวส่งผลให้หุ้นของ BYD เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (29 ก.ย.) พุ่งขึ้นถึง 42% ปิดตลาดอยู่ที่ 11.90 เหรียญฮ่องกง (1.53 เหรียญสหรัฐ) มีปริมาณการซื้อขาย 259.7 ล้านเหรียญฮ่องกง เพิ่มขึ้นจาก 12.7 ล้านเหรียญฮ่องกงในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันบริษัทเบิร์กไชร์ แฮธาเวย์กำลังพยายามฉวยโอกาสทองจากการที่ทั่วโลกต้องการเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทเล็งเห็นศักยภาพการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ที่ต้นทุนต่ำแต่ล้ำสมัยของบริษัท BYD จึงได้ตัดสินใจร่วมลงทุนด้วย
ขณะเดียวกันทางบริษัทมิดอเมริกันก็จะช่วยเหลือ BYD ในการทำการตลาดยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของบริษัทในตลาดสหรัฐฯ และยุโรปด้วย
โดย BYD ซึ่งกำลังขยับขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ วางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบตัวแรกของบริษัทในตลาดรถยนต์จีนช่วงมิถุนายนปี 2009 โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินไปแล้ว 72,357 คัน เพิ่มจากปีก่อนหน้าถึง 94%
นอกจากนี้บริษัทยังหวังว่าจะส่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเจาะตลาดสหรัฐฯ ภายในปี 2011 หลังจากบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ คอร์ป ตั้งเป้าเริ่มจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท “เชฟโรเล็ท โวลท์” ในเดือนพฤศจิกายนปี 2010 พร้อมทั้งเกทับว่า แบตเตอรี่ที่ใช้กับรถยนต์เชฟโรเล็ท โวลท์นั้น ชาร์จเต็มที่ก็วิ่งได้แค่ 65 กิโลเมตรเท่านั้น แต่รถยนต์ของ BYD ที่จะส่งออกมาทีหลังชาร์จเพียงครั้งเดียวก็สามารถวิ่งได้สูงสุดถึง 300 กิโลเมตร เนื่องจากใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวล้ำทันสมัยนั่นเอง
