เอเชียน วอลสตรีท เจอร์นัลด์ – ผู้ปกครองผวานมผงเจือสารเมลามีน ลงโฆษณาหา “แม่นม” มาจุนเจือให้นมลูกด่วน ทำให้อาชีพเก่าแก่ของจีนกลับมาบูมอีกครั้งขณะที่เงินเดือนก็เพิ่มขึ้นแตะ 18,000 หยวนต่อเดือน อย่างไรก็ตาม เริ่มมีกระแสกังวลว่าลูกของแม่นมจะเผชิญปัญหาขาดแคลนนมแม่ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์แทน
จากปัญหานมผงจีนปนเปื้อนสารเมลามีน ซึ่งเป็นสารเคมีใช้ผลิตพลาสติกและปุ๋ย เป็นเหตุให้มีเด็กทารกล้มป่วยด้วยอาการนิ่วในไตนับหมื่นคน และเสียชีวิตไปแล้ว 4 ราย ทำให้อาชีพเก่าแก่ดั้งเดิมอย่าง “แม่นม” กลับมาบูมอีกครั้ง
คุณพ่อมือใหม่ ไจแมนดี อู๋ ปิ๊งไอเดียให้ภรรยาสาวมารับหน้าที่เป็น “แม่นม” เพราะเขาเคยอ่านเจอเรื่องราวของผู้หญิงที่เลี้ยงดูลูกคนอื่นด้วยน้ำนมของตัวเองจากในเว็บไซต์
ด้านทิน่า หวง ภรรยาวัย 24 ปีของเขา ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกว่างตง ทางตอนใต้ของประเทศจีนก็เห็นด้วยกับความคิดของสามี เธอเล่าว่าน้ำนมของเธอมีมากเกินความต้องการของลูกสาววัย 2 เดือนของเธอเสียอีก “เวลาดูโทรทัศน์เห็นเด็กทารกจำนวนมากไม่มีนมดื่มเพราะนมผงปนเปื้อนสารพิษแล้ว ฉันก็รู้สึกเสียดายจริงๆ ที่ตัวเองทิ้งน้ำนมไปเสียเปล่า”
คุณอู๋เล่าว่า อาชีพเก่าของภรรยาเขาคือเลขานุการ ซึ่งได้เงินเดือนแค่ 1,000 หยวนต่อเดือนเท่านั้น (146 เหรียญสหรัฐ) แต่ถ้าเปลี่ยนอาชีพมาเป็นแม่นมล่ะก็ เธอจะได้เงิน 12,000 หยวนต่อเดือนเลยทีเดียว “ซึ่งนั่นจะทำให้เรามีเงินซื้อเสื้อผ้าดีๆ ให้ลูกสาวใส่ สามารถส่งเสียเธอเข้าโรงเรียนอนุบาลดีๆ ได้ด้วย”
โดยนับตั้งแต่เกิดเหตุนมจีนเจือสารพิษ ค่าจ้างของแม่นมจีน ซึ่งโพสต์โฆษณาลงในเว็บไซต์ และลงทะเบียนที่สำนักงานให้บริการแม่บ้านทั่วประเทศจีนนั้นก็พุ่งขึ้นเท่าตัว สูงถึง 18,000 หยวนต่อเดือน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคุณแม่มือใหม่ 6 รายเดินทางมายื่นเรื่องหางานกับบริษัทจงเจี้ย แฟมิลี่ เซอร์วิส ซึ่งเป็นนายหน้าหาแม่บ้านและแม่นม โดยคุณอ้าย เสี่ยวสง ผู้จัดการของบริษัทให้สัมภาษณ์ว่า “ผมทำงานอยู่ในแวดวงนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ไม่เคยเห็นปรากฏการณ์ต้องการแม่นมมากมายขนาดนี้เลย” จนกระทั่งถึงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ก.ย.) ก็มีผู้หญิงมาลงทะเบียนสมัครงานแล้วถึง 260 คน ในจำนวนนี้มี 20 คนที่ได้งานแล้ว
ด้านกลุ่มแพทย์ระบุว่า น้ำนมของผู้หญิงที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของเด็กและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้ด้วย อย่างไรก็ตามในช่วงศตวรรษที่ 19 ประเทศแถบตะวันตกได้ห้ามให้เด็กดื่มนมของผู้หญิงอื่นที่มีลูกของตัวเอง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะหวั่นเกรงลูกจริงๆ ของแม่นมจะไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ขณะที่ประเทศจีนเองซึ่งมีวัฒนธรรมเกี่ยวกับแม่นมมายาวนาน แต่เมื่อถึงช่วงที่พรรคคอมมิวนิสต์ขึ้นปกครองประเทศก็มองว่าแม่นมเป็นสัญลักษณ์แห่งความเสื่อมยุคศักดินา จึงพยายามกวาดล้างทำให้จำนวนของแม่นมค่อยๆ ลดลง
และเมื่อนมผงเริ่มเข้ามาเจาะตลาดมากขึ้น การให้เด็กทานน้ำนมจากอกก็ค่อยๆ ลดลง ตามข้อมูลของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งประเทศจีนระบุว่า ในปี 2005 ผู้หญิงชนบทยากจนที่ให้ลูกดื่มนมแม่ลดเหลือแค่เพียง 38% เท่านั้น จาก 62% ในปี 2000 เนื่องด้วยหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นคือชาวจีนส่วนใหญ่เชื่อว่านมผงเหล่านี้ดีต่อเด็กมากกว่า อีกทั้งบางครอบครัวทำงานยุ่งมากไม่มีเวลา จึงต้องหาตัวช่วย
แต่เมื่อนมผงที่เคยเชื่อมั่นมีปัญหา บรรดาพ่อแม่ก็หันมาหาแม่นมแทน โดยเซียว กุ้ยตง คุณพ่อของหนูน้อยวัย 4 เดือนในเมืองฉงชิ่งได้ลงโฆษณาออนไลน์หาแม่นมที่มีสุขภาพแข็งแรง อุดมน้ำนม และมีสุขภาพอนามัยที่ดี โดยเสนอค่าแรงให้เดือนละ 3,000 หยวน ฟรีที่พักและอาหาร
“ตอนนี้แม่ผมเป็นคนดูแลลูกชายอยู่” เซียว ที่เพิ่งหย่าร้างกับภรรยาเล่า “ผมต้องการแม่นมด่วน โดยเฉพาะตอนนี้ เพราะนมผงจีนมีปัญหา”
ในขณะที่ความต้องการแม่นมเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คำถามและข้อสงสัยก็ผุดขึ้นตามมา เนื่องจากผู้หญิงที่มาทำอาชีพแม่นมนั้นส่วนใหญ่ยากจนจึงต้องอาศัยขายนมเลี้ยงชีพ แล้วลูกๆ ของพวกเธอเล่า
เวลาที่พวกเธอต้องไปทำงาน บางครั้งเจ้านายก็ไม่อนุญาตให้พวกเธอพาลูกๆ ไปทำงานด้วย ดังเช่นเจ้านายอย่างเซียวซึ่งกล่าวว่า “ผมทนไม่ได้ถ้าต้องเห็นเธอป้อนนมลูกชายผม ขณะที่ลูกของเธอก็ร้องไห้งอแงอยู่ข้างๆ” เขายอมรับว่าอาจดูเห็นแก่ตัวไปสักหน่อย แต่เขาก็ไม่เห็นด้วย “พวกเขาต้องการงานดีเงินดี ส่วนผมก็ต้องการให้พวกเขาดูแลลูกของผม มันก็ถือว่าแฟร์ดี เราพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน”
คุณหวง ผู้หวังได้ทำงานเป็นแม่นมยอมรับว่า เธอยอมทิ้งลูกของตัวเองวัย 2 เดือนไว้ที่บ้าน หากนายจ้างต้องการเช่นนั้น “เราสามารถเลี้ยงลูกของเราด้วยอาหารอย่างอื่น เช่น น้ำข้าว” เธอกล่าว