เอเจนซี – เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 ส.ค.) เติร์กเมนิสถาน ประเทศผู้ร่ำรวยพลังงานได้ลงนามข้อตกลงเพิ่มการส่งออกก๊าซธรรมชาติมายังจีนเป็น 40,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี เพิ่มขึ้นจากข้อตกลงเดิมซึ่งอยู่ที่ 10,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
ภายใต้ข้อตกลง จีนจะเริ่มรับก๊าซธรรมชาติจากเติร์กเมนิสถานราวปี 2009 โดยการก่อสร้างท่อส่งน้ำมัน ซึ่งทอดยาวตั้งแต่เติร์กเมนิสถานมายังเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ ซินเจียง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนผ่านทางอุซเบกิสถานและคาซัคสถาน จะแล้วเสร็จในปีหน้า
โดยสัญญาดังกล่าวลงนามโดยหู จิ่นเทา ประธานาธิบดีจีนและกูร์บันกูลี เบอร์ดีมูคามีดอฟ ประธานาธิบดีเติร์กเมนิสถานในระหว่างที่หูเดินทางเยือนประเทศเอเชียกลาง
จากสถิติทางการระบุ ปัจจุบันเติร์กเมนิสถานสามารถผลิตก๊าซได้ประมาณ 70,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี โดยส่งออกก๊าซราว 50,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปีไปยังรัสเซียภายใต้สัญญาระยะเวลา 25 ปี และส่งอีก 8,000 ล้านลูกบาศก์เมตรมาจำหน่ายให้แก่อิหร่าน
ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้ว ไชน่า เนชั่นแนล ปิโตรเลียม คอร์ปอเรชั่นประสบความสำเร็จคว้าสิทธิการสำรวจและพัฒนาแหล่งพลังงานธรรมชาติ Bagtyalyk บริเวณชายแดนเติร์กเมนิสถานกับอุซเบกิซถาน ซึ่งรัฐบาลคาดว่าบริเวณดังกล่าวจะมีก๊าซธรรมชาติมากถึง 1.3 ล้านล้านลูกบาศก์เมตร
ในปีเดียวกัน เติร์กเมนิสถาน รัสเซีย และคาซัคสถานได้ลงนามข้อตกลงสร้างท่อส่งก๊าซตามชายฝั่งทะเลแคสเปียน ซึ่งมีศักยภาพในการขนส่งก๊าซ 20,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เบอร์ดีมูคามีดอฟ และอเล็กซี มิลเลอร์ ประธานบริษัท โอเอโอ ก๊าซพรอม ซึ่งผูกขาดธุรกิจก๊าซในรัสเซีย ได้ตกลงเพิ่มศักยภาพการขนส่งก๊าซเป็น 30,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
ด้านสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปก็พยายามผลักดันให้มีการสร้างท่อส่งก๊าซข้ามทะเลแคสเปียน ซึ่งจะสามารถส่งก๊าซธรรมชาติจากเติร์กเมนิสถาน ผ่านอาเซอร์ไบจัน ตุรกี และเข้ามาสู่ตลาดตะวันตกได้โดยอ้อมรัสเซีย