ผู้จัดการออนไลน์/เอเจนซี--เป็นเวลาถึง 7 ปีที่เดวิด ทูล (David Tool) ได้เดินตระรอนๆไปตามท้องถนนในกรุงปักกิ่ง เพื่อไล่ล่าป้ายชื่อต่างๆ ที่อาจสร้างความอับอายขายหน้า ไล่ตรวจชื่อเมนูอาหาร ตลอดจนสอนภาษาอังกฤษแก่ชาวเมือง เพื่อเตรียมความพร้อมแก่ปักกิ่งสำหรับโอลิมปิก
อดีตนายทหารจากกองทัพสหรัฐอเมริกา วัย 66 ปีจากเซาท์ โคโรไลน่า มีบทบาทสำคัญในการยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษ กระทั่งรัฐบาลจีนให้เกียรติเขาเป็นชาวต่างชาติคนแรกที่ถือคบเพลิงโอลิมปิก ในตอนที่คบเพลิงมาถึงปักกิ่ง
ทูลเป็นที่รู้จักดีในปักกิ่ง ในฐานะ “ตำรวจภาษาอังกฤษ” เขาเป็นผู้ที่ช่วยขัดเกลาปรับเปลี่ยนคำแปลภาษาอังกฤษ ที่มีความหมายสุดฉาวน่าหวาดเสียว ไปถึงกลุ่มคำที่มีความหมายเรียกเสียงฮาลั่น ถึงกับสื่อจีนได้รายงานบทความที่ใช้ชื่อล้อเลียนชื่อเมนูอาหารคือ “ปรากฎการณ์ “รัฐบาลที่ละเมิดสิทธิไก่”” ซึ่งมาจากชื่อเมนูอาหาร กงเป่าจี /宫保鸡 ที่ถูกถ่ายทอดเป็นภาษาอังกฤษคือ Government abuse chicken
คำเด็ดสุดที่อุบัติขึ้นจากความอ่อนด้อยทางภาษาได้แก่ ป้ายชื่อหน้าสวนชนชาติส่วนน้อยในปักกิ่ง ที่ชาวจีนขึ้นป้ายชื่อหราว่า Racist Park หมายถึงสวนลัทธิชนชาติ หรือลัทธิเผ่าพันธุ์นิยม ซึ่งมีความหมายไปทางลบอย่างแรงคือหยาดหยามทางเชื้อชาติ ทูลกลายเป็นผู้ทรงคุณูปการในการช่วยขจัดความเข้าใจผิดถึงขั้นอันตราย ชื่อสวนลัทธิชนชาติ จึงถูกเปลี่ยนเป็น National Ethnic Cultural Park China/สวนวัฒนธรรมชนชาติแห่งจีน หรือChina Nationalities Museum /สวนพิพิธภัณฑ์ชนชาติจีน
นอกจากนี้ เขายังช่วยเปลี่ยนชื่อ Dongda Proctology Hospital (โรงพยาบาลศัลยศาสตร์ลำไส้และทวารหนัก) จากเดิมที่ใช้ชื่อ Dongda Anus Hospital (โรงพยาบาลทวารหนัก/ตูด)
แต่งานที่ทูล และคณะกรรมการฝึกฝนทักษาการพูดภาษาต่างชาติแห่งปักกิ่ง ที่ทูลเป็นที่ปรึกษาอยู่นั้น ดูจะถูกคาดหวังมากเกินไป
“เราคิดว่าพวกเขาจะพูดอังกฤษได้คล่องแคล่วเนื่องจากได้ข่าวว่าจีนฟิตฝึกฝนภาษากันมาก ฉันผิดหวังมาก พวกเขาไปไม่ถึงไหน” เลสซี่ย์ วิลลส์ พยาบาลวัย 49 ปี ที่มาเชียร์ลูกชายเแข่งขันยิงธนูในโอลิมปิก เกมส์บ่น
ทั้งนี้ คณะกรรมการฝึกฝนการพูดภาษาอังกฤษได้ตั้งเป้าไว้อย่างหรูเลิศ ในตอนเริ่มโครงการรณรงค์เมื่อปี 2002 โดยคาดหวังให้ 1 ใน 3 ของชาวปักกิ่งทั้งหมด สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ในช่วงการแข่งขันโอลิมปิก เกมส์
ประเมินโดยรวมๆแล้ว ทูลบอกว่าโครงการของเขาประสบความสำเร็จ แต่ก็เป็นไปอย่างจำกัด ไม่ทุกคนที่จะสามารถพูดภาษอังกฤษได้คล่อง นอกจากนี้ ปัญหาเฉพาะตัวของจีนอีกอย่างคือ ความที่มีประชากรมหาศาล แม้ได้สอนคนพูดภาษาอังกฤษได้เป็นล้านๆคน มันก็ดูเล็กน้อยเหลือเกิน “คุณอย่าลืมว่า เมืองนี้ มีประชากรถึง 14 ล้านคน คุณอาจจะฝ่าดงผู้คน 2-3 ล้าน กว่าจะได้มาเจอกับกลุ่มคน 5 ล้านคนที่เราได้ฝึกสอนจนพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง”
ทูลอาจารย์ประจำ Beijing International Studies University เล่าถึงสิ่งที่จุดประกายให้เขาริเริ่มโครงการฝึกฝนภาษาอังกฤษแก่ชาวเมือง เกิดขึ้นระหว่างที่เขาชมการแสดงอุปรากรปักกิ่ง หรืองิ้วในปี 2001 ตอนนั้น ชาวต่างชาติหัวเราะฮาสนั่น เมื่ออ่านซับไตเติ้ล “auspicious cloud” (เมฆมงคล) กลายเป็น“auspicious clod” (ก้อนดินมงคล)
“มันได้ปลุกให้ผมตื่นขึ้นมานึกถึงปัญหาเหล่านี้ในช่วงโอลิมปิก”
จากนั้น ทูลได้เขียนจดหมายไปยังกระทรวงวัฒนธรรมจีน อาสาช่วยแก้คำผิดตามพิพิธภัณฑ์ และแหล่งวัฒนธรรมต่างๆก่อนเปิดม่านโอลิมปิก เจ้าหน้าที่กระทรวงได้แนะนำเขาว่า ควรเริ่มงานตามถนนหนทาง และสถานีรถไฟใต้ดินก่อนดีกว่า
จากนั้น ทูลก็มุ่งไปยังป้ายชื่อตามแหล่งธุรกิจต่างๆ แต่ยิ่งทำก็ยิ่งพบการแปลที่ผิดเพี้ยนบานเบอะ ทูลต้องทำงานแข่งกับเวลาสุดชีวิต ขณะที่โอลิมปิกวิ่งไล่จี้ก้นเข้ามาทุกที จนในที่สุดทีมของทูลก็ต้องตัดสินใจเลือกสังคายนาป้ายชื่อบริเวณสนามแข่งขันโอลิมปิก แต่ก็ยังต้องลดเป้าหมายแคบลงไปอีก ไปยังจุดที่การแปลผิดพลาดจะกระทบต่อความปลอดภัย
ทูลเล่าว่าบางทีเขาก็ถูกกล่าวหาว่าไร้อารมณ์ขันจากความเร่าร้อนของเลือดแชมป์มือแปลที่ได้รับรางวัลมากมาย
แต่ทูลแย้งว่า เขาก็หัวเราะท้องคัดท้องแข็งเหมือนกันโดยเฉพาะตอนที่อ่านเมนูในโรงแรมใหญ่ๆในปักกิ่ง “อย่างเช่น Hunan Flesh for a Short While (เนื้อเยื่อหูหนันเดี๋ยวเดียว-ผู้แปล), Incense of Furious Bullfrog (กบตัวใหญ่ขี้โมโหหอมกรุ่น-ผู้แปล), Bean Segments Explode Large Intestine (ซีกถั่วระเบิดในลำไส้ใหญ่-ผู้แปล) ” ทูลเล่าถึงงานที่กระตุ้นต่อมหัวเราะสุดสุด พร้อมรับรองได้ว่า แขกบ้านแขกเมืองที่มาในช่วงโอลิมปิก จะไม่ได้เห็นเมนู “พิเศษ” เหล่านี้ .
อดีตนายทหารจากกองทัพสหรัฐอเมริกา วัย 66 ปีจากเซาท์ โคโรไลน่า มีบทบาทสำคัญในการยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษ กระทั่งรัฐบาลจีนให้เกียรติเขาเป็นชาวต่างชาติคนแรกที่ถือคบเพลิงโอลิมปิก ในตอนที่คบเพลิงมาถึงปักกิ่ง
ทูลเป็นที่รู้จักดีในปักกิ่ง ในฐานะ “ตำรวจภาษาอังกฤษ” เขาเป็นผู้ที่ช่วยขัดเกลาปรับเปลี่ยนคำแปลภาษาอังกฤษ ที่มีความหมายสุดฉาวน่าหวาดเสียว ไปถึงกลุ่มคำที่มีความหมายเรียกเสียงฮาลั่น ถึงกับสื่อจีนได้รายงานบทความที่ใช้ชื่อล้อเลียนชื่อเมนูอาหารคือ “ปรากฎการณ์ “รัฐบาลที่ละเมิดสิทธิไก่”” ซึ่งมาจากชื่อเมนูอาหาร กงเป่าจี /宫保鸡 ที่ถูกถ่ายทอดเป็นภาษาอังกฤษคือ Government abuse chicken
คำเด็ดสุดที่อุบัติขึ้นจากความอ่อนด้อยทางภาษาได้แก่ ป้ายชื่อหน้าสวนชนชาติส่วนน้อยในปักกิ่ง ที่ชาวจีนขึ้นป้ายชื่อหราว่า Racist Park หมายถึงสวนลัทธิชนชาติ หรือลัทธิเผ่าพันธุ์นิยม ซึ่งมีความหมายไปทางลบอย่างแรงคือหยาดหยามทางเชื้อชาติ ทูลกลายเป็นผู้ทรงคุณูปการในการช่วยขจัดความเข้าใจผิดถึงขั้นอันตราย ชื่อสวนลัทธิชนชาติ จึงถูกเปลี่ยนเป็น National Ethnic Cultural Park China/สวนวัฒนธรรมชนชาติแห่งจีน หรือChina Nationalities Museum /สวนพิพิธภัณฑ์ชนชาติจีน
นอกจากนี้ เขายังช่วยเปลี่ยนชื่อ Dongda Proctology Hospital (โรงพยาบาลศัลยศาสตร์ลำไส้และทวารหนัก) จากเดิมที่ใช้ชื่อ Dongda Anus Hospital (โรงพยาบาลทวารหนัก/ตูด)
แต่งานที่ทูล และคณะกรรมการฝึกฝนทักษาการพูดภาษาต่างชาติแห่งปักกิ่ง ที่ทูลเป็นที่ปรึกษาอยู่นั้น ดูจะถูกคาดหวังมากเกินไป
“เราคิดว่าพวกเขาจะพูดอังกฤษได้คล่องแคล่วเนื่องจากได้ข่าวว่าจีนฟิตฝึกฝนภาษากันมาก ฉันผิดหวังมาก พวกเขาไปไม่ถึงไหน” เลสซี่ย์ วิลลส์ พยาบาลวัย 49 ปี ที่มาเชียร์ลูกชายเแข่งขันยิงธนูในโอลิมปิก เกมส์บ่น
ทั้งนี้ คณะกรรมการฝึกฝนการพูดภาษาอังกฤษได้ตั้งเป้าไว้อย่างหรูเลิศ ในตอนเริ่มโครงการรณรงค์เมื่อปี 2002 โดยคาดหวังให้ 1 ใน 3 ของชาวปักกิ่งทั้งหมด สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ในช่วงการแข่งขันโอลิมปิก เกมส์
ประเมินโดยรวมๆแล้ว ทูลบอกว่าโครงการของเขาประสบความสำเร็จ แต่ก็เป็นไปอย่างจำกัด ไม่ทุกคนที่จะสามารถพูดภาษอังกฤษได้คล่อง นอกจากนี้ ปัญหาเฉพาะตัวของจีนอีกอย่างคือ ความที่มีประชากรมหาศาล แม้ได้สอนคนพูดภาษาอังกฤษได้เป็นล้านๆคน มันก็ดูเล็กน้อยเหลือเกิน “คุณอย่าลืมว่า เมืองนี้ มีประชากรถึง 14 ล้านคน คุณอาจจะฝ่าดงผู้คน 2-3 ล้าน กว่าจะได้มาเจอกับกลุ่มคน 5 ล้านคนที่เราได้ฝึกสอนจนพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง”
ทูลอาจารย์ประจำ Beijing International Studies University เล่าถึงสิ่งที่จุดประกายให้เขาริเริ่มโครงการฝึกฝนภาษาอังกฤษแก่ชาวเมือง เกิดขึ้นระหว่างที่เขาชมการแสดงอุปรากรปักกิ่ง หรืองิ้วในปี 2001 ตอนนั้น ชาวต่างชาติหัวเราะฮาสนั่น เมื่ออ่านซับไตเติ้ล “auspicious cloud” (เมฆมงคล) กลายเป็น“auspicious clod” (ก้อนดินมงคล)
“มันได้ปลุกให้ผมตื่นขึ้นมานึกถึงปัญหาเหล่านี้ในช่วงโอลิมปิก”
จากนั้น ทูลได้เขียนจดหมายไปยังกระทรวงวัฒนธรรมจีน อาสาช่วยแก้คำผิดตามพิพิธภัณฑ์ และแหล่งวัฒนธรรมต่างๆก่อนเปิดม่านโอลิมปิก เจ้าหน้าที่กระทรวงได้แนะนำเขาว่า ควรเริ่มงานตามถนนหนทาง และสถานีรถไฟใต้ดินก่อนดีกว่า
จากนั้น ทูลก็มุ่งไปยังป้ายชื่อตามแหล่งธุรกิจต่างๆ แต่ยิ่งทำก็ยิ่งพบการแปลที่ผิดเพี้ยนบานเบอะ ทูลต้องทำงานแข่งกับเวลาสุดชีวิต ขณะที่โอลิมปิกวิ่งไล่จี้ก้นเข้ามาทุกที จนในที่สุดทีมของทูลก็ต้องตัดสินใจเลือกสังคายนาป้ายชื่อบริเวณสนามแข่งขันโอลิมปิก แต่ก็ยังต้องลดเป้าหมายแคบลงไปอีก ไปยังจุดที่การแปลผิดพลาดจะกระทบต่อความปลอดภัย
ทูลเล่าว่าบางทีเขาก็ถูกกล่าวหาว่าไร้อารมณ์ขันจากความเร่าร้อนของเลือดแชมป์มือแปลที่ได้รับรางวัลมากมาย
แต่ทูลแย้งว่า เขาก็หัวเราะท้องคัดท้องแข็งเหมือนกันโดยเฉพาะตอนที่อ่านเมนูในโรงแรมใหญ่ๆในปักกิ่ง “อย่างเช่น Hunan Flesh for a Short While (เนื้อเยื่อหูหนันเดี๋ยวเดียว-ผู้แปล), Incense of Furious Bullfrog (กบตัวใหญ่ขี้โมโหหอมกรุ่น-ผู้แปล), Bean Segments Explode Large Intestine (ซีกถั่วระเบิดในลำไส้ใหญ่-ผู้แปล) ” ทูลเล่าถึงงานที่กระตุ้นต่อมหัวเราะสุดสุด พร้อมรับรองได้ว่า แขกบ้านแขกเมืองที่มาในช่วงโอลิมปิก จะไม่ได้เห็นเมนู “พิเศษ” เหล่านี้ .