เอเอฟพี - กรมสถิติจีนเผยผลผลิตอุตสาหกรรมจีนในเดือน ก.ค. ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 14. 7 เป็นอัตราที่ลดลงจากเดือนมิ.ย. ซึ่งขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 16.0 และลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 18.0
วันที่(13ส.ค.) กรมสถิติจีนระบุว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนกรกฎาคมลดลงนั้น ได้แก่ราคาวัตถุดิบที่พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง บวกกับอุปสงค์จากตลาดต่างประเทศลดลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมถึงมาตรการเข้มที่ทางการปักกิ่งสั่งระงับการผลิตในหลายโรงงานเพื่อลดมลพิษระหว่างการแข่งขันโอลิมปิก ซึ่งบรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่างคาดว่าหลังจากที่เสร็จสิ้นการแข่งขันในโอลิมปิกแล้ว ผลผลิตอุตสาหกรรมในประเทศจีนจะปรับตัวดีขึ้น
อย่างไรก็ดี ยอดการส่งออกในเดือนก.ค.อยู่ที่ 26.9 % นับว่าเป็นตัวเลขที่ตรงกันข้ามกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่มียอดส่งออกถึง 34.2 %
ขณะเดียวกันผู้ประกอบการชาวจีนกำลังเผชิญภาวะขาดแคลนไฟฟ้า, ราคาน้ำมันดิบและถ่านหินที่ปรับราคาเพิ่มขึ้น
ขณะที่ยอดค้าปลีกในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 23.3 % เพิ่มขึ้นจากเดือนมิ.ย. 0.3 % หรือมูลค่า 862,900ล้านหยวน โดยยอดค้าปลีกจีนใน 7 เดือนแรกของปีนี้ทะยานแตะ 21.7 % หรือมูลค่า 597 ล้านล้านหยวน ซึ่งยอดค้าปลีกเป็นมาตรวัดการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ด้านหลี่ หมิงเลี่ยงนักวิจัยจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจมหภาคแห่งศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งชาติจีน(ดีอาร์ซี)ระบุว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดค้าปลีกในเดือนก.ค.ขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากการแข่งขันกีฬาในช่วงโอลิมปิกเป็นปัจจัยกระตุ้นให้การบริโภคของชาวจีน และคาดว่าจะยังส่งผลต่อเนื่องจนถึงเดือนกันยายน