xs
xsm
sm
md
lg

เยอรมนีถลำสู่ภาวะศก.ถดถอย ญี่ปุ่นจะเติมเงินให้IMF$1แสนล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยเตอร์ – สถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลกแสดงอาการย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ข้อมูลล่าสุดเมื่อวานนี้(13)ชี้ว่า เยอรมนีได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยแล้ว ขณะที่ผลผลิตอุตสาหกรรมของจีนก็ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี ทำให้ยิ่งเพิ่มความหวาดวิตกที่ว่าวิกฤตการเงินกำลังดึงทั้งโลกให้ลงสู่ภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจครั้งเจ็บปวดยิ่ง
ความพยายามที่จะหาสะกัดกั้นมิให้วิกฤตลุกลามออกไปนั้น ยังทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นเผยท่าทีว่า จะให้เงิน 100,000 ล้านดอลลาร์แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) เพื่อเพิ่ม “กระสุน” ในการช่วยเหลือประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ทั้งหลาย
ทั้งนี้ ผลกระทบจากวิกฤตการเงินครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 80 ปี ได้ฉุดดึงให้เยอรมนี ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบห้าปี โดยอัตราการเติบโตในไตรมาสสามของปีนี้นั้นหดตัวลงถึง 0.5% จากปัจจัยการส่งออกที่อ่อนตัวลงอย่างมาก
“วิกฤตการเงินและเศรษฐกิจโลกชะลอตัวได้ทำให้เศรษฐกิจของเยอรมนีได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างรุนแรง” คาร์สเตน เบรอะเซสกีจากไอเอ็นจี ไฟแนนเชียล มาร์เก็ตส์ ให้ความเห็น
“ตอนนี้ผลกระทบเต็มรูปแบบของวิกฤตการเงินยังไม่เกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าสถานการณ์ในอนาคตจะย่ำแย่ไปกว่านี้ ถ้าคุณคิดว่าตัวเลขเศรษฐกิจต่างในวันนี้ย่ำแย่แล้ว รอดูตัวเลขของไตรมาสต่อไปดีกว่า”
ส่วนจีนที่เพิ่งประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 ล้านล้านหยวน ก็เห็นสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวลงมากขึ้นอันเป็นผลกระทบโดยตรงจากวิกฤต โดยตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนตุลาคมขยายตัวเพียง 8.2% เท่านั้น ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2001 เป็นต้นมา
ตลาดหุ้นทั่วทั้งเอเชียและยุโรปวานนี้ร่วงลงตามๆ กัน เพราะความวิตกที่ว่ามาตรการอัดฉีดเม็ดเงินจำนวนมหาศาลรวมทั้งมาตรการกำกับดูแลฉุกเฉินอื่น ๆจะไม่สามารถหยุดยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจที่แท้จริงได้
หลังจากวอลล์สตรีทเมื่อคืนวันพุธ(12) ดัชนีหุ้นอุตสาหกรรมร่วง 4.7% วานนี้ตลาดโตเกียวก็ดิ่งลง 5.3% ในขณะเดียวกันราคาน้ำมันก็ร่วงลงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบ 22 เดือน
เท่าที่ผ่านมา รัฐบาลทั่วทั้งโลกได้ออกมาประกาศแผนการอัดฉีดเม็ดเงินสู่ภาคธนาคาร เข้าค้ำประกันสินเชื่อ รวมทั้งเพิ่มการใช้จ่ายด้านอื่น ๆเพื่อต่อสู้กับความปั่นป่วนภาคการเงินของโลกเป็นเงินรวมกันมากกว่า 4.6 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว แต่สถานการณ์ที่ย่ำแย่ลงอีก ทำให้ความเชื่อมั่นของตลาดค่อย ๆลดลงไป
เหล่าผู้นำของประเทศอุตสาหกรรมสำคัญและประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ขนาดใหญ่รวมทั้งสิ้น 20 ชาติ (จี 20) กำหนดประชุมกันเพื่อหารือเกี่ยวกับหนทางการแก้ไขปัญหาในวันศุกร์และเสาร์นี้ ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าน่าจะมีมาตรการที่เป็นรูปธรรมอย่างหนึ่งอย่างใดออกมา
ในขณะเดียวกัน วานนี้ญี่ปุ่นได้เสนอเม็ดเงิน 100,000 ล้านดอลลาร์ แก่ไอเอ็มเอฟเพื่อนำไปให้ในโครงการกู้เศรษฐกิจให้กับบรรดาประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ต่าง ๆที่ถือว่ามีส่วนสำคัญในการฉุดรั้งมิให้เศรษฐกิจโลกดำดิ่งลงไปมากกว่านี้
แหล่งข่าวกล่าวว่านายกรัฐมนตรีทาโร อาโซะแห่งญี่ปุ่น จะยื่นข้อเสนอนี้ในที่ประชุมระดับผู้นำของจี 20
บรรดานักลงทุนต่างก็จับจ้องการประชุมซัมมิตจี 20 คราวนี้อย่างไม่กระพริบตา ด้วยความหวังที่ว่าจะมีมาตรการอื่น ๆออกมาเพื่อพลิกฟื้นความเชื่อมั่นของตลาดให้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ก็พากันสงสัยว่าที่ประชุมจะบรรลุผลอะไรเป็นรูปธรรมได้หรือไม่ เพราะประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชแห่งสหรัฐฯกำลังจะหมดวาระลงไป และหากสหรัฐฯซึ่งเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่และมีอิทธิพลที่สุดในโลกไม่กล้าที่จะให้คำมั่นในปฏิบัติการใด ๆก็จะทำให้ผลการประชุมไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
กำลังโหลดความคิดเห็น