มะกันขาดดุลการค้าจีน ลูกจ้างถูกปลดงานระนาว

เอเจนซี่ – รายงานของสถาบันนโยบายเศรษฐกิจ (EPI) เผย ลูกจ้างแดนมะกันถูกปลดงานถึง 2 ล้าน 3 แสนตำแหน่ง ผลพวงจากการขาดดุลการค้ากับจีน คาดรายงานจะกระพือเชื้อไฟการถกเถียงประเด็นการค้าเสรีให้ยิ่งดุเดือดเผ็ดร้อนก่อนหน้าศึกชิงทำเนียบขาว

รายงานของ EPI ซึ่งเป็นสถาบันนักคิดแนวเอียงซ้ายในวอชิงตัน ระบุเมื่อวันพุธ (30 ก.ค.) ว่า การปลดงานจำนวนดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างปี 2544-2550 และถึงแม้ลูกจ้างเหล่านี้ได้งานทำใหม่ แต่เงินรายได้ลดลง โดยเฉลี่ย 8,146 ดอลลาร์ในแต่ละปี เนื่องจากงานใหม่จ่ายค่าจ้างน้อยกว่างานเก่า

สก็อตต์ พอล ผู้อำนวยการบริหารของกลุ่มพันธมิตรเพื่อการผลิตแห่งอเมริกากล่าวว่า รายงานฉบับนี้ถือเป็นการโหมโรง เพราะแสดงให้เห็นขนาดความเสียหาย ซึ่งเกิดจากกลโกงของจีน และจะช่วยให้เกิดการอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องนี้กันมากขึ้น

ภาคการผลิตแบกรับหนักสุด

รายงานของ EPI ระบุว่า ตำแหน่งงานที่ถูกปลดกว่า 2 ใน 3 อยู่ในภาคอุตสาหกรรมการผลิต และกว่าครึ่งหนึ่งในจำนวนนี้เป็นตำแหน่งงานที่มีรายได้ดี มีการประกันสุขภาพ และสวัสดิการต่าง ๆ หลังปลดเกษียณ

อุตสาหกรรมการผลิตที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจากการขาดดุลการค้ากับจีนนั้นรวมถึงการผลิตคอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ ,เสื้อผ้า,เครื่องประดับตกแต่ง

นอกจากนั้น ธุรกิจภาคบริการก็ได้รับผลกระทบไม่น้อยเช่นกัน เช่น ธุรกิจบริการสนับสนุนงานด้านบริหารจัดการ,บริการด้านวิชาชีพ, วิทยาศาสตร์ และเทคนิค

รายงานยังชี้ด้วยว่า ตำแหน่งงานที่ถูกปลดไม่จำเป็นต้องเป็นแรงงานไร้ฝีมืออย่างที่มักเข้าใจกัน โดยร้อยละ 31 ของตำแหน่งที่ถูกปลดเป็นลูกจ้างจบการศึกษาระดับวิทยาลัย

“ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนได้แก่การปลดตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์และวิศวกร 2 แสนตำแหน่งในภาคการผลิต หรือร้อยละ 10.7 ของตำแหน่งงานที่ถูกปลดทั้งหมด” กลุ่มAAM ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ผลิตและสหภาพแรงงานเหล็กกล้าแห่งอเมริกา ระบุในแถลงการณ์

ทั้งนี้ ประเด็นการค้าเสรีได้ครอบงำเป็นประเด็นหลักในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในหลายรัฐ เช่นโอไฮโอ,มิชิแกน และเพ็นซิลวาเนีย ซึ่งรัฐเหล่านี้การเมืองมีการแบ่งขั้วอย่างชัดเจน และการเลือกตั้งเป็นการต่อสู้กันอย่างสูสี

นายบารัก โอบามา ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตประกาศสนับสนุนให้เพิ่มการวางข้อกำหนดสำหรับการค้าอย่างยุติธรรม มิใช่สำหรับการค้าเสรี

ขณะที่นายจอห์น แม็คแคนสนับสนุนการค้าเสรี เนื่องจากเห็นว่าเป็นช่องทางให้ชาวอเมริกันสามารถเจาะตลาดใหม่ และแข่งขันสู้คนอื่นได้

เทอร์รี่ สตร๊อบ รองประธานองค์กรกิจการสาธารณะและรัฐบาลเพื่อผู้ผลิตเหล็กกล้าของสหรัฐฯ กล่าวว่า ผู้ผลิตอเมริกันจะแข่งขันได้ ก็ต่อเมื่อ“การฉ้อโกง”ของจีนถูกหยุดยั้งลง

บรรดาผู้ผลิต,สหภาพแรงงาน และส.ส. หลายคนของสหรัฐฯ กล่าวหาจีนมานานแล้วว่า ปั่นค่าเงินหยวน เพื่อทำให้บริษัทจีนได้เปรียบการค้ากับต่างชาติอย่างไม่เป็นธรรม

คนเหล่านี้กำลังกดดันให้จีนปล่อยลอยตัวค่าเงินหยวนต่อไป ซึ่งจะทำให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบดอลลาร์ เพื่อให้การค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ มีความเป็นธรรมมากขึ้น

ด้านจีนตอบโต้ว่า สหรัฐฯ ควรตระหนักว่า เงินหยวนแข็งได้ค่าขึ้นไปมากเท่าใดแล้วเมื่อเทียบดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่จีนได้ปรับเพิ่มค่าเงินหยวนเมื่อเดือนกรฎาคม 2548 เงินหยวนก็ได้แข็งค่าขึ้นอีกราวร้อยละ 20

จีนยังอ้างด้วยว่า ชาวอเมริกันประหยัดรายได้น้อยกว่าที่ชาวจีนประหยัดกัน ซึ่งทำให้การขาดดุลการค้ายิ่งขยายกว้างขึ้น โดยผู้บริโภคชาวอเมริกัน ซึ่งมองหาสินค้าราคาถูก พากันนิยมซื้อสินค้าที่ผลิตในจีนกันอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา