ธ.กลางไต้หวันขึ้นดอกเบี้ยแก้ไขเงินเฟ้อ หลังเงินร้อนต่างชาติทะลักไม่หยุด

หนังสือพิมพ์สากล – หลังเงินร้อนต่างชาติยังปั่นค่าเงินไต้หวันไม่เลิก เงิน
เฟ้อที่พุ่งขึ้น ราคาสินค้าที่หลายฝ่ายคาดว่าธนาคารกลางเตรียมใช้มาตรการต่างๆแทรกแซงเพื่อปกป้องค่าเงิน และเสถียรภาพของราคาสินค้าเอาไว้ โดยอาจมีการประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.125% ในเร็วๆนี้

เมื่อวันพฤหัส (27 มี.ค.) ธนาคารกลางไต้หวันได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.125% โดยผู้ว่าการธนาคารกลางไต้หวันนายเผิง หวยหนันได้เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการป้องกันเงินเฟ้อ

ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางไต้หวันได้ออกมาเตือนหลายครั้ง ถึงเงินร้อนจำนวนมหาศาลจากนานาชาติ ที่คาดกันว่าอย่างน้อยอยู่ที่ราว 100,000 ล้านเหรียญไต้หวัน ได้ไหลบ่าเข้ามาเก็งกำไรในตลาดเงิน จนกระทั่งช่วงที่ผ่านมาได้ทำให้ค่าเงินของไต้หวันแข็งทะลุ 30 มาอยู่ที่ 29.95 เหรียญไต้หวันต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ และนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. ปีค.ศ. 1997 ที่เงินไต้หวันแข็งค่ามาเป็นหลักเลข 2

โดยเฉพาะในเวลานี้ที่ได้ผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันไปแล้ว ผนวกกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนตัวลง ส่งผลให้เงินร้อนจากต่างชาติยิ่งไหลทะลักเข้ามาโดยเมื่อวันที่ 26 อัตราแลกเปลี่ยนเงินไต้หวันนั้นขึ้นไปสูงสุดที่ 29.95 เหรียญไต้หวันต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ปิดตลาดที่ 30.01 เหรียญต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในปีนี้เงินไต้หวันได้แข็งค่ามาแล้วมากกว่า 7% ในขณะที่โรงงานผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่งออกส่วนใหญ่มีสัดส่วนกำไรอยู่ที่ 5%-6% เท่านั้น เช่นนี้จะทำให้บริษัทใหญ่ๆหลายแห่ง โดยเฉพาะบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อาจจะต้องขาดทุนจากผลของอันตราแลกเปลี่ยนเป็นจำนวนมาก ในเดือนมี.ค. ซึ่งถือเป็นช่วงไฮซีซัน สำหรับการส่งออก

ดังนั้นก่อนหน้านี้ผู้คนในวงการค้าได้ประเมินกันล่วงหน้าว่า ด้วยสถานการณ์ดังกล่าว คาดว่าก่อนจะสิ้นเดือนมี.ค. ธนาคารกลางจะต้องพยายามปกป้องค่าเงินให้ไม่ต่ำไปกว่า 30 เหรียญไต้หวันต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อที่จะลดความเสียหายอันเกิดจากอัตราแลกเปลี่ยนแก่ผู้ประกอบการส่งออกในประเทศ

เจ้าหน้าที่จากฮุ่ยอิ๋น กรุ๊ป ได้เปิดเผยว่า ในระยะนี้เงินที่ไหลเข้ามาจำนวนมากส่วนหนึ่งมาจากเงินทุนไต้หวันเองที่เคยไหลออกไปในต่างประเทศในอดีต ดังนั้นการที่จะมีเงินจากต่างประเทศเข้ามาอีกเท่าไหร่ และธนาคารกลางสามารถรองรับได้ในขีดจำกัดแค่ไหนนั้น จะเป็นตัวกำหนดเส้นการแข็งค่าของเงินไต้หวัน

ดังนั้นหลังกรณีเงินแข็งค่าทะลุ 30 เหรียญ และราคาสินค้าภายในประเทศ เงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้มีการคาดกันว่าธนาคารกลางไต้หวันอาจจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.125% และมีการประเมินว่าเส้นตายอัตราแลกเปลี่ยนที่ธนาคารกลางไต้หวันรับได้น่าจะอยู่ที่ 30 เหรียญไต้หวันต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งธนาคารกลางยังจะใช้มาตรการต่างๆในการแทรกแซง เพื่อป้องกันการเก็งกำไร และรักษาเสถียรภาพค่าเงินเอาไว้ให้ได้ถึงวันที่ประธานาธิบดีใหม่จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 พ.ค.นี้

ทั้งนี้ก่อนหน้าราว 2 สัปดาห์ธนาคารกลางไต้หวันได้เคยเปิดเผยว่า ในอดีตนั้นทุนจากต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในตลาดไต้หวัน ทั้งหมดจะเฉลี่ยอยู่ที่ราว 300,000 ล้านเหรียญไต้หวัน ทว่าหลังจากที่มีเงินร้อนเป็นจำนวนมากเข้ามา ในปัจจุบันเงินทุนต่างชาติที่ฝากอยู่ในรูปของเงินไต้หวันได้สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยตัวเลข 396,200 ล้านเหรียญไต้หวัน กล่าวคือเงินต่างชาติที่ไหลเข้ามาอย่างน้อยมากกว่าปีที่แล้วถึงเกือบ 100,000 ล้านเหรียญไต้หวัน