มังกรเปิดตัวหน่วยงานพลังงานแห่งชาติ แนะกลไกตลาดแก้น้ำมัน-ไฟฟ้าขาดทุน

เอเยนซี – ทางการจีนแต่งตั้งผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่ในคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ โดยแบ่งการดูแลออกเป็น 9 ส่วนครอบคลุมทั้งการวางแผน การพัฒนา ดูแลควบคุม ในขณะที่สื่อฮ่องกงลงบทความระบุว่าควรจะมีการดึงกลไกตลาด เข้ามาแก้ปัญหาการขาดทุนอย่างหนักของโรงกลั่นและโรงไฟฟ้าในขณะนี้

สำนักข่าวซินหัวของจีนได้รายงานว่า หลังจากการประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีนเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา และมีการอนุมัติให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติขึ้น ในขณะนี้ ได้มีการวางตำแหน่งบุคลากรต่างๆในหน้าที่ดังกล่าเรียบร้อยแล้ว และประกาศเริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการตั้งแต่เมื่อวันอังคาร (29 ก.ค.)

โดยคณะกรรมการดังกล่าวเป็นองค์กรความร่วมมือและที่ปรึกษาระหว่างกระทรวง ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) โดยสำนักงานใหม่นี้จะรวมหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการภาคพลังงานของ NDRC, สำนักงานคณะทำงานองค์กรพลังงานแห่งชาติ และคณะกรรมการทางอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อการป้องกันประเทศ ว่าด้วยการบริหารจัดการพลังงานนิวเคลียร์

หน้าที่ของคณะกรรมการดังกล่าว จะรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนากลยุทธด้านพลังงานของประเทศ และประเมินแผนการพัฒนาและความมั่นคงด้านพลังงาน รวมไปถึงการเพิ่มความร่วมมือการลงนามต่างๆด้านพลังงานระหว่างประเทศ ซึ่งได้แบ่งงานออกเป็น 9 สำนักงาน ได้แก่สำนักงานดูแลการวางแผน กฎเกณฑ์และนโยบาย แผนการพัฒนา การประหยัดพลังงาน อุปกรณ์ด้านอิเล็คทรอนิกส์ ไฟฟ้า ถ่านหิน น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ พลังงานใหม่และพลังงานหมุนเวียน ความร่วมมือระหว่างประเทศ ส่วนคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน ก็จะยุติหน้าที่ดูแลและตรวจสอบอุตสาหกรรมสำคัญบางประเภท หันมาทุ่มเทเพื่อดูแลควบคุมเศรษฐกิจทั้งหมด

ดึงกลไกตลาดช่วยน้ำมัน -ไฟฟ้า

ด้วยสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป ทำให้พลังงานกลายมาเป็นจุดสำคัญ และเป็นประเด็นที่นานาชาติต่างทุ่มเทสติปัญญาในการเข้ามาดูแล เพราะนอกจากจะต้องดูแลเสถียรภาพพลังงานให้อุปสงค์-อุปทานในประเทศเป็นไปอย่างสมดุลแล้ว นโยบายพลังงานยังส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไปถึงนโยบายทางเศรษฐกิจ ต้นทุน เงินเฟ้อ

จากตัวเลขเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติได้ประกาศว่า ตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ค. 2008 ธุรกิจการแปรรูปและกลั่นน้ำมันทั่วประเทศในจีนได้แปรจากที่เคยกำไร 35,200 ล้านหยวนในปีที่แล้ว มาเป็นขาดทุนสุทธิ 44,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ถูกกว่าตลาดโลก กับราคาของถ่านหินที่เพิ่มขึ้นจนเป็นตัวกดดันให้การแปรรูปน้ำมันต้องขาดทุนอย่างมหาศาล ขณะที่ไฟฟ้าก็มีผลกำไรลดฮวบ

ขณะที่ในวันพุธ (30 ก.ค.) หนังสือพิมพ์หมิงเป้าของฮ่องกง ได้ตีพิมพ์บทความที่ระบุว่า ขณะนี้นโยบายของรัฐ กำลังทำให้กลุ่มผู้ที่ผูกขาดน้ำมันและไฟฟ้ารายใหญ่ในแดนมังกรกำลังพบเจอกับความเจ็บปวด โดยเห็นได้จากการที่บริษัทไชน่า เนชั่นแนล ปิโตรเลียม คอร์ปอเรชั่น (ซีเอ็นพีซี) ที่ได้ออกมาประกาศเมื่อวานนี้ว่า ได้มีการวางแผนจะลดพนักงานลง 5% หรือประมาณ 80,000 คนภายในระยะเวลา 3 ปี

ในขณะที่ผู้นำด้านไฟฟ้าของจีนก็เตรียมที่จะปรับลดเงินเดือนลง 30% โดยในงานประชุมกลุ่มผู้ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าของจีนเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้มีข้อมูลเล็ดรอดออกมาว่า ในช่วงครึ่งปีแรก ธุรกิจด้านไฟฟ้าของจีนรายใหญ่ 4 แห่งได้ขาดทุนไปแล้ว 7,000 ล้านหยวน นอกจากนั้นยังมีการรวบรวมข้อมูลที่ระบุว่า ใน 5 เดือนแรกของปีนี้ ตัวเลขการขาดทุนของธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันกับไฟฟ้าทั้งหมดรวมกันแล้วมากกว่า 100,000 ล้านหยวน

บทความของสื่อฮ่องกงยังระบุอีกว่า ในปัจจุบันการใช้วิธีการที่รัฐให้เงินอุดหนุนเพื่อชดเชยความกดดันด้านราคาให้น้ำมันกับไฟฟ้ากำลังลำบากขึ้นทุกที เพราะช้าเร็วรัฐบาลก็จะต้องหันหน้ามาเผชิญหน้ากับระบบกลไกตลาดกลไกราคา ผู้เชี่ยวชาญเองก็ได้เคยชี้ไว้ว่า ปวดนานไม่สู้เจ็บระยะสั้น จีนเองควรจะใช้กลไกตลาดที่มากขึ้น ในการมาแก่ไข้ระบบปัญหาราคาพลังงาน

การที่ให้เป็นไปตามกลไกตลาด จะทำให้แต่ละภาคส่วนต่างทำหน้าที่ของตนเอง และสามารถทำให้ตลาดทุนสามารถคาดเดาได้ล่วงหน้า ทว่าการผลักดันนโยบายเช่นนี้ อาจจะพูดง่ายแต่ทำยาก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ในหลายๆได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สามารถฟันธงได้เลยก็คือ การปฏิรูปราคาน้ำมันคือสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง และน่าจะเกิดการปรับราคาอีกครั้งหลังจากเสร็จสิ้นมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่าทางการจีนจะเลือกปรับมากหรือน้อย แต่จากคำพูของนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าที่พูดว่าสามารถควบคุมและแบกรับปัญหาการขึ้นราคาของสินค้าได้ระดับหนึ่งแล้ว ก็เห็นได้ว่า ความทุกข์ของธุรกิจไฟฟ้ากับน้ำมันคงยังไม่จบสิ้นง่ายๆ