คาดเที่ยวบินโดยตรงจีน-ไต้หวัน ดันเศรษฐกิจมังกรน้อยกระเตื้อง

เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล – นักธุรกิจไต้หวันเร่งรัฐบาลขยายการเจรจาการบินตรงกับจีน เล็งเห็นโอกาสไต้หวันมีแต่ได้กับได้ หลังเที่ยวบินตรงปฐมฤกษ์เหินฟ้า

การเปิดเที่ยวบินเหมาลำช่วงสุดสัปดาห์โดยตรงระหว่างจีนกับไต้หวันครั้งปฐมฤกษ์ในรอบเกือบ 60 ปีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (4 ก.ค.) นับเป็นก้าวย่างสำคัญในการผ่อนคลายความตึงเครียดและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างปรปักษ์ทั้งสอง หลังจากนายหม่า อิงจิ่ว เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันคนใหม่เมื่อเดือนพฤษภาคม

แม้พญามังกรและมังกรน้อยยังคงไม่ลงรอยกันในหลายประเด็นใหญ่ แต่นักวิเคราะห์หลายคนก็เชื่อว่า การเปิดการบินดังกล่าวอาจนำไปสู่ความสัมพันธ์ ที่มีเสถียรภาพมากขึ้น และกระตุ้นให้เศรษฐกิจไต้หวันเบ่งบาน

ตามข้อตกลงเปิดการบินตรงเหมาลำสุดสัปดาห์ ซึ่งบรรลุร่วมกันเมื่อเดือนมิถุนายนนั้น จะมีเที่ยวบินเดินทางในแต่ละสัปดาห์ทั้งหมด 36 เที่ยว ระหว่างเกาะไต้หวันกับ 5 เมืองของจีน ซึ่งรวมทั้งกรุงปักกิ่ง และนครเซี่ยงไฮ้

นอกจากนั้น ประธานาธิบดีหม่ายังให้คำมั่นว่า จะมีการเปิดเที่ยวบินตรงเหมาลำทุกวันภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะพัฒนาไปสู่เที่ยวบินตรงอย่างปกติสม่ำเสมอภายในเดือนมิถุนายนปีหน้า

ด้านนักวิเคราะห์และนักบริหารธุรกิจต่างคาดว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้เกาะไต้หวันดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติได้มากขึ้น

แอนเดรีย อู่ ประธานหอการค้าอเมริกันในกรุงไทเป ซึ่งเรียกร้องให้รัฐบาลไต้หวันเชื่อมเส้นทางการเดินอากาศกับจีน ระบุว่า ถ้าการบินระหว่างจีนกับไต้หวันสามารถประหยัดเวลาและต้นทุนได้ บริษัทข้ามชาติก็อาจเลือกเข้ามาลงทุนในไต้หวันมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินจำนวนเล็กน้อยภายใต้ข้อตกลงปัจจุบันก่อผลกระทบในวงจำกัด ขณะเดียวกัน บางคนยังบ่นด้วยว่า เที่ยวบินตรงเหมาลำสุดสัปดาห์มีราคาแพงเกินไป โดยตั๋วจากกรุงไทเปไปกรุงปักกิ่ง ราคาตกราว 700 ดอลลาร์สหรัฐฯ

นอกจากนั้น เที่ยวบินยังต้องผ่านน่านฟ้าฮ่องกงตามข้อกำหนดด้านความมั่นคงของรัฐบาลไต้หวัน ทำให้การเดินทางยังคงล่าช้ากว่าที่เที่ยวบินตรงควรจะเป็น แต่ก็ยังนับว่าเร็วกว่าเดิม เนื่องจากลดเวลาการเดินทางระหว่างกรุงไทเปกับนครเซี่ยงไฮ้ลงได้ครึ่งหนึ่ง จากราว 6 ชั่วโมง เป็น 3 ชั่วโมง

ในขณะที่มีผู้มองว่าการเปิดการบินตรงจะช่วยให้เศรษฐกิจไต้หวันขยายตัว แต่อีกหลายคนกลับวิตกว่า เมื่อการเดินทางไปจีนง่ายขึ้น อาจทำให้เกิดการไหลออกของเงินทุนและเทคโนโลยี ตลอดจนปัญหาสมองไหลไปยังจีน ส่งผลให้เศรษฐกิจไต้หวันอ่อนแอ

อย่างไรก็ตาม มีผู้แย้งว่า การเปิดเที่ยวบินตรงปกติ อาจทำให้ชนชั้นกลางของไต้หวัน ที่ย้ายไปทำงานบนแผ่นดินใหญ่ในช่วง10ปีที่ผ่านมา กลับมาอยู่ไต้หวัน และใช้วิธีเดินทางไป ๆ มา ๆ แทน เนื่องจากการเดินทางสะดวกขึ้น ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการบริโภคในไต้หวัน ซึ่งกำลังอยู่ในภาวะชะงักงัน รวมทั้งหนุนให้ราคาอสังหาริมทรัพย์กระเตื้อง

มีการคาดการณ์กันว่า มีชาวไต้หวันราว 1 ล้านคนไปทำงานและอาศัยในจีนอย่างน้อย ๆ ก็สักระยะหนึ่งในแต่ละปี

“การเปิดการบินตรงจะทำให้การรับสมัครชาวไต้หวันเข้าทำงานในจีนสะดวกยิ่งขึ้น และช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทชาวไต้หวันในจีนอีกด้วย” นาย เฮ็กเตอร์ เหยียน อดีตประธานสมาคมนักธุรกิจบริษัทลงทุนชาวไต้หวันในเซี่ยงไฮ้ ชี้ พร้อมกล่าวเสริมว่า ชาวไต้หวันที่ทำงานในจีนจะไม่ต้องย้ายครอบครัวไปด้วย

อย่างไรก็ตาม สำหรับในระยะสั้นนั้น นักท่องเที่ยวน่าจะเป็นลูกค้ารายใหญ่สำหรับเที่ยวบินตรงเหมาลำสุดสัปดาห์ โดยไต้หวันหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่เดินทางมาไต้หวันถึงวันละ3,000 คน ขณะที่โรงแรมและธุรกิจบริการบนเกาะมังกรน้อยยิ้มแก้มปริรอต้อนรับ

เจ้าหน้าที่ระบุว่า เที่ยวบินปฐมฤกษ์เมื่อวันศุกร์จากจีนมาไต้หวันนั้น ขนนักท่องเที่ยวชาวจีนมาถึง 750 คน

แต่ทันทีที่เหยียบแผ่นดินไต้หวัน ด่านแรกที่นักท่องเที่ยวแดนมังกรเหล่านี้ต้องพบพานก็คือกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง นับตั้งแต่ผู้เรียกร้องเอกราชทิเบต ไปจนถึงสาวกลัทธิฝาหลุนกง ลัทธิศาสนาต้องห้ามในจีน อันตอกย้ำให้เห็นความแตกต่างด้านเสรีภาพทางการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งแบ่งแยกดินแดนสองฟากฝั่ง

“ขอเชิญชาวจีน สูดอากาศแห่งเสรีภาพในไต้หวัน” ผู้ประท้วงบางคนตะโกนลั่น

ทั้งนี้ ในช่วงที่รัฐบาลจีนกำลังวุ่นวายเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิกในเดือนสิงหาคม การเจรจาเพื่อขยายข้อตกลงจำนวนเที่ยวบินน่าจะต้องรอไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน เจิง เจียหลี่ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนของสำนักการบินพลเรือนของไต้หวันคาดการณ์

ส่วนข้อตกลงเกี่ยวกับเที่ยวบินขนส่งสินค้า ซึ่งเป็นยอดปรารถนาของไต้หวัน คงต้องรอไปจนถึงเดือนตุลาคมเป็นอย่างเร็วที่สุด จึงมีการพิจารณาทบทวนกันใหม่